ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - market b

หน้า: [1]
1
ในมุมมองหลายๆ คนนั้น อาจจะคิดว่าในการทำหมอนแต่ละใบขึ้นมานั้น อาจจะดูเป็นอะไรที่แสนจะยุ่งยากแล้วอาจจะต้องการฝีมือในระดับหนึ่ง แต่ที่จริงแล้วนั้นการที่เราจะทำหมอนด้วยฝีมือตัวเองนั้นแสนจะง่ายดายโดยไม่จำเป็นต้องง้อช่างเลย แต่แอบจะต้องการความอดทนและความคิดสร้างสรรค์นิดหน่อย จะเพราะว่าอะไรนั้นนะหรอ เรามี 3 ขั้นตอนมาอธิบายว่าทำไมการทำหมอนนั้นถึงง่ายแสนง่ายกว่าที่คิด


ขั้นตอนแรก: การออกแบบและเลือกชนิดของหมอน

สำหรับขั้นตอนแรกในการทำหมอนนั้นง่ายมากๆ คือการที่เราจะต้องเลือกชนิดของหมอนที่เราอยากได้และ ขนาดของหมอนนั้นๆ นั่นก็เพราะว่าหมอนนั้นมีหลากหลายชนิดและหลากหลายขนาด โดยที่เรานั้นจำเป็นต้องคำนึงถึงปัจจัยในการนำไปใช้และรูปแบบที่เราอยากได้

นั่นก็เพราะว่าหมอนนั้นมีหลากหลายแบบ เช่น หมอนอิง, หมอนรองคอ หรือว่าหมอนผ้าห่มเป็นต้น โดยหมอนแต่ละชนิดนั้นจะมีการใช้งานที่แตกต่างกัน พร้อมทั้งจะมีวัสดุและขั้นตอนการเย็บที่แตกต่างกันไป

หลังจากที่เราเลือกประเภทของหมอนเรียบร้อยแล้วนั้น เราจำเป็นที่จะต้องเลือกขนาดและรูปทรงของหมอน เพื่อที่เราจะได้เตรียมความยาวของผ้า และจำนวนของไส้ให้เหมาะสมกับหมอนที่เราอยากได้ โดยทั่วไปแล้วนั้นหมอนจะมีทรงกลม, ทรงเหลี่ยม หรือทรงยาว โดยขนาดจะอยู่ที่ประมาณ 9 - 24 นิ้ว

ขั้นตอนที่สอง: การเตรียมวัสดุและอุปกรณ์

โดยทั่วไปแล้วนั้นวัสดุในการทำหมอนจะมีอยู่ไม่กี่อย่าง เช่น ผ้า ไม่ว่าจะเป็น ผ้าใยสังเคราห์, ผ้าฝ้าย, หรือผ้าลวดลายต่างๆ และหลังจากที่เราสามารถเลือกผ้าและเลือกลายได้แล้วนั้นเราจำเป็นที่จะต้องวัดขนาดของผ้าให้มีความยาวมากกว่าขนาดของหมอนที่เราต้องการ เพื่อที่จะทำให้เราสามารถเย็บหมอนขึ้นมาโดยที่ลดโอกาสของไส้ทะลักนั่นเอง

หลังจากที่เราสามรถเลือกผ้าได้แล้วนั้น เราก็มาถึงขั้นตอนที่จะต้องเลือกไส้ของหมอนที่เราต้องการ ถามว่าทำไมเราถึงควรที่จะเลือกไส้ของหมอนนั้นละก็ บอกได้เลยว่าไส้ต่างๆ ของหมอนนั้นจะส่งผลกระทบต่อความนุ่มของหมอนได้ เช่น โฟมนั้นจะมีความนุ่มมากกว่าขนสัตว์แต่ถว่าการใช้งานอาจจะสั้นกว่าเนื่องจากการหดตัวของโฟมนั้นมีสูงมากๆ หรืออาจจะเป็นขนสัตว์ต่างๆ เช่น ขนเป็ดเป็นต้น แต่ถว่าการใช้ขนสัตว์นั้นก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลเพราะว่าบางท่านอาจจะมีอาการแพ้ขนสัตว์หรือไม่ชอบความนุ่มเกินไปของขนสัตว์ และวัสดุอีกหนึ่งอย่างที่คนนำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย นั่นก็คือนุ่นหรือว่าใยสังเคราะห์นั่นเอง โดยที่นุ่นนั้นจะมีความนุ่มและการคืนตัวที่ค่อนข้างยืดหยุ่นกว่า วัสดุอื่นๆ นั่นเอง

พอเราสามารถเลือกวัสดุได้ทั้งหมดแล้ว เราควรที่จะต้องเตรียมวัสดุเบื้องต้นเช่น เข็มและด้าย พร้อมกับอุปกณ์ตกแต่งอื่นๆ ตามต้องการเช่น ดาวหรือของตกแต่ง หรือว่าสายคาดและตัวล็อคหรือซิบ สำหรับการทำหมอนรองคอ หรือหมอนผ้าห่ม

ขั้นตอนสุดท้าย: ขั้นตอนการทำหมอน

หลังจากที่เราเตรียมวัสดุอุปกรณ์ทั้งหมดได้แล้วนั้นก็มาถึงขั้นตอนการทำหมอนขึ้นมาหนึ่งใบ

  • เราจะต้องเย็บ ผ้า 2 ผืนเข้าด้วยกันให้ครบสามด้าน โดยจะมีด้าน หัวหรือท้าย ข้างใดข้างหนึ่งก่อน และก็เย็บด้านข้างให้เข้ากัน
  • หลังจากนั้นแล้วเราก็นำใส้ชนิดต่างๆ ที่เราเตรียมไว้ยัดให้พอดีกับขนาดของหมอนของเรา โดยที่ควรจะยัดไม่ให้แน่นเกินไปหรือน้อยจนเกินไป
  • เย็บปากของหมอนอีกฝั่งให้สนิทเพื่อป้องกันการทะลักของไส้หมอน
  • ตกแต่งหมอนของเราให้สวยงามด้วยวัสดุต่างๆ ที่เราเตรียมไว้

นี่ก็คือ 3 ขั้นตอนง่ายๆ สำหรับการทำหมอนเองได้ที่บ้านโดยเราสามารถสอนให้ลูกหลานของเราเพลินไปกับการทำหมอนได้ด้วยตัวเขาเอง

2
การจัดส่งสินค้าหมายถึงการที่เรานำสินค้าที่ลูกค้าสั่งซื้อหรือว่าไปวางขายตามที่ๆ ถูกกำหนด แต่ถว่าการจัดส่งสินค้าในสมัยก่อนนั้นอาจจะมีปัญหาในเรื่องของการตกหล่นและอาจจะมีเรื่องของ Delay ของการขนส่งที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ ดังนั้นแล้ว ณ ปัจจุบันในการทำธุรกิจที่จำเป็นต้องจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้าบ่อยๆ นั้นจึงควรที่จะลงทุนในส่วนของระบบการจัดส่งสินค้า นั่นก็เพราะว่าระบบจัดส่งสินค้านั้นสามารถช่วยลดปัญหามีโอกาสเกิดขึ้นได้ขณะจัดส่งสินค้า แล้วมันดีอย่างไรเรามีข้อดีของระบบการจัดส่งสินค้ามานำเสนอ



เลือกรูปแบบการจัดส่งได้
ซึ่งการจัดส่งสินค้าในสมัยก่อนนั้นจะมีทางเลือกที่น้อยมาก แล้วบางทีอาจจะทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการสื่อสารกันบ่อยมาก แต่ ณ ปัจจุบันระบบการจัดส่งสินค้านั้นสามารถช่วยทำให้ข้อผิดพลาดเหล่านั้นหายไปเพราะว่าลูกค้าสามารถเลือกวิธีการจัดส่งสินค้าได้ด้วยตัวเอง ซึ่งอาจจะทำให้ลูกค้านั้นสามารถเลือกทางที่สะดวกหรือถูกที่สุดสำหรับพวกเขาได้

สามารถเช็คข้อมูลการจัดส่งได้แบบ Real Time
ซึ่งหนึ่งปัญหาที่มักจะพบเจอสำหรับการจัดส่งสินค้านั้นก็คือการที่ไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลการจัดส่งสินค้าได้ ดังนั้นแล้วระบบการจัดส่งสินค้าอาจจะมีข้อดีอีกอย่างหนึ่งนั้นก็คือการที่ลูกค้าสามารถเช็คสถานะการจัดส่งได้อย่างแม่นยำ นั่นเอง

สามารถเช็คข้อมูลการจัดส่งทั้งหมด
หนึ่งปัญหาของเจ้าของธุรกิจหรือพนักงานสำหรับการจัดส่งสินค้านั้นก็คือการที่ไม่สามารถเช็คข้อมูลของสินค้าและวิธีการจัดส่งได้จากทุกช่องทาง ซึ่งอาจจะทำให้เสียเวลาในการเช็คข้อมูลจากการเปิดเข้าออกหลายๆ แอพ ดังนั้นระบบนี้สามารถช่วยให้การจัดส่งสินค้านั้นง่ายขึ้น เพราะว่าสามารถเช็คข้อมูลทั้งหมดผ่านระบบเดียวนั่นเอง

หน้า: [1]