ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - มณฑนรรห์

หน้า: [1]
1
         หากเราพูดถึงเครื่องดื่มที่มีรูปแบบวิธีการชงหรือวิธีการดื่มที่หลากหลายแล้วก็คงต้องยกให้เครื่องดื่มที่มีชื่อว่า ค็อกเทล ซึ่งหากพูดถึงค็อกเทลนั้นใครหลายๆ คนก็คงจะนึกไปถึงเครื่องดื่มที่มีสีสันหลากหลายและก็มีการเสิร์ฟมาในแก้วที่แตกต่างกัน และที่สำคัญคงจะนึกไปถึงบาร์เทรนเดอร์แต่งตัวสะอาดยืนวุ่นวายอยู่ที่บาร์ใส่โยนผสมนี่ตาม สูตรค็อกเทล ต่างๆ ลงในเชคเกอร์อย่างแน่นอน ซึ่งจริงๆ แล้วหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าการชงค็อกเทลในแต่ละแก้วนั้นไม่ใช่มีแค่การเขย่าแก้วเชคเกอร์อย่างเดียวเท่านั้น แต่การชงค็อกเทลตาม สูตรค็อกเทล ต่างๆ นั้นยังมีวิธีการอื่นๆ อีกด้วย ฉะนั้นในวันนี้เราจะพาไปเรียนรู้วิธีการชงค็อกเทลในรูปแบบอื่นๆ กันบ้าง


เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าเครื่องดื่มค็อกเทลนั้นก็คือ เครื่องดื่มชนิดหนึ่งที่มีแอลกอฮอล์เนื่องจากมีการใส่เหล้าตั้งแต่ 2 ชนิด ขึ้นไปนำมาผสมกัน เช่น วอดก้า และอาจจะมีการใส่ส่วนผสมอื่นๆ เข้าไปอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นน้ำผลไม้หรือน้ำเชื่อม เป็นต้น หรืออาจจะเป็นการชงโดยการใส่เหล้า 1 ชนิด แล้วผสมกับน้ำผลไม้หรือส่วนผสมอื่นๆ ซึ่งในค็อกเทลแต่ละแก้วนั้นจะมีรสชาติเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ว่าบาร์เทรนเดอร์มีการใช้ สูตรค็อกเทล อย่างไรนั่นเอง และถ้าใครที่ดื่มค็อกเทลอยู่บ่อยๆ นั้นจะสังเกตได้ว่าในร้านแต่ละร้านนั้นแม้จะมีค็อกเทลที่มีชื่อเรียกเหมือนกัน แต่ทว่าเมื่อชงออกมาแล้วอาจจะมีรสชาติที่แตกต่างกันอยู่บ้าง ซึ่งนั่นก็เป็นการย้ำเตือนว่า สูตรค็อกเทล นั้นไม่มีตายตัว และบาร์เทนเดอร์หรือใครก็ตามสามารถที่จะคิดค้น สูตรค็อกเทล ต่างๆ ได้อยู่ตลอดนั่นเอง คราวนี้เราไปดูรูปแบบวิธีการชงค็อกเทลกันบ้างดีกว่าวสามารถชงด้วยวิธีการไหนได้บ้าง

1.   วิธีการเขย่า (shaking) วิธีการนี้เรียกว่าเราต่างก็คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี และเรียกได้ว่าเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งในการชงค็อกเทลก็ว่าได้ และอุปกรณ์ที่ใช้ในการเขย่าก็คือ กระบอกเชค (shaker) นั่นเอง ทั้งนี้วิธีการชงก็คือ นำส่วนผสมตาม สูตรค็อกเทล ใส่ในกระบอกเชค แล้วตักน้ำแข็งก้อนใส่ลงไป จากนั้นก็ปิดฝากระบอกเชคให้สนิทและก็เริ่มเขย่าด้วยความเร็วและแรงในจังหวะที่สม่ำเสมอ และเมื่อได้ที่แล้วก็เทกรองเอาแต่น้ำใส่ลงในแก้วได้เลย

2.   วิธีการคนผสม (stiring) แน่นอนว่าอุปกรณ์ที่สำคัญสำหรับวิธีการนี้ก็คือ แก้วผสม (mixing glass) และช้อนบาร์ (bar spoon) ซึ่งการชงค็อกเทลด้วยวิธีการนี้สามารถทำได้ 2 แบบคือ

-   Stri คือ การใส่น้ำแข็งและส่วนผสมต่างๆ ตามสูตรค็อกเทล ลงในแก้วโดยตรง แล้วใช้ช้อนบาร์ผสมด้วยการกระทุ้งขึ้นลงอย่างความเร็ว

-   Stri & strain คือ การใส่น้ำแข็งและส่วนผสมต่างๆ ลงในแก้วผสม แล้วใช้ช้อนบาร์คนด้วยการหมุน จากนั้นใช้ที่กรองเอาแต่น้ำเทใส่ลงแก้ว

3.   วิธีการริน (pouring) อุปกรณ์ที่ใช้ในการชงค็อกเทลด้วยวิธีการนี้ก็คือ จุกรินเหล้า ซึ่งจะช่วยให้รินได้สะดวกขึ้น และวิธีการทำค็อกเทลด้วยวิธีการนี้ก็คือ การเทส่วนผสมต่างๆ ตาม สูตรค็อกเทล ลงไปในแก้วที่มีน้ำแข็งโดยที่เราไม่ต้องไปคนผสม การชงค็อกเทลด้วยวิธีการนี้นั้นจะเป็นการเล่นสีของส่วนผสมต่างๆ จึงทำให้ได้ค็อกเทลสีสันสวยงามนั่นเอง

4.   วิธีการรินเรียงเป็นชั้น (layering) การชงค็อกเทลด้วยวิธีการนี้จะต้องดูน้ำหนักของเหล้าเป็นหลัก โดยค่อยๆ เทส่วนผสมต่างๆ ตาม สูตรค็อกเทล ของเราลงในแก้วช็อตเบาๆ ช้าๆ เพื่อให้มันเรียงเป็นชั้นๆ และอุปกรณ์ที่ช่วยในการชงวิธีนี้ก็คือ ช้อนบาร์ นั่นเอง


และที่เราได้กล่าวกันไปในข้างต้นนั้นก็เป็นรูปแบบวิธีการชงค็อกเทลต่างๆ ในขั้นพื้นฐานที่เราพบเห็นบาร์เทรนเดอร์ทำกันบ่อยๆ ตาม สูตรค็อกเทล ที่เราได้สั่งไป ทังนี้ในแต่ละร้านนั้นก็อาจจะมีอุปกรณ์อื่นๆ ที่เข้ามาช่วยทำให้ชงค็อกเทลได้ง่ายขึ้น และนอกจากที่เราได้กล่าวไปนั้นก็ยังมีรูปแบบวิธีการชงอื่นๆ อีกด้วย แต่มันจะเป็นการนำเทคนิคพิเศษอื่นๆ เข้ามาช่วยทำให้เป็นค็อกเทลที่น่าดื่มยิ่งขึ้น ซึ่งเราจะได้กล่าวกันต่อไปในบทหน้านั่นเอง

2
       สาวๆ หนุ่มๆ ที่รักสุขภาพทั้งหลาย  คงดูแลเรื่องอาหารการกินไม่น้อยเลย เพื่อให้มีหุ่นสวยเป๊ะไปอีกนาน  การเลือกทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีประโยชน์  จึงเป็นปัจจัยสำคัญในการรับประทานอาหารเลยก็ว่าได้  เพราะอาหารจะช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ  ส่วนเครื่องดื่มก็จะช่วยในการดับกระหายคลายร้อน  ทั้งยังช่วยใสการเสริมสร้างความอบอุ่นให้แก่ร่างกายได้  ซึ่งจะดื่มอะไรสิ่งใดนั้นต้องดูสภาพอากาศเป็นหลักด้วย  เพราะผันแปรตลอดเวลา  ยกตัวอย่างเช่น  การดื่มค็อกเทลเพื่อดับความกระหาย  และดื่ม วอดก้า เพื่อสร้างความอบอุ่นให้แก่ร่างกายซึ่งเครื่องดื่มทั้งสองชนิดนี้มักจะพบในงานจัดเลี้ยงสังสรรค์อย่างสม่ำเสมอ  ชอบแบบไหน  อย่างไร ก็สามารถเลือกได้ตามใจ  ซึ่งมีหลากชนิดให้เลือกสรรด้วย  สูตรค็อกเทล  และ  เครื่องดื่ม วอดก้า ที่คัดมาแล้วว่าเด็ด  เช่น วอดก้า Smirnoff


      เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์อย่าง วอดก้า  Smirnoff  เป็น วอดก้า  เป็นเครื่องดื่มที่มีชื่อเสียงระดับโลก  ถือเป็นเครื่องดื่มชั้นเยี่ยมยอด  เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศรัสเซีย  ด้วยการคัดแล้วคัดอีกจากแป้งสาลีที่ดีที่สุดมาผลิตเป็นวอดก้า  Smirnoff  จนได้รับความนิยมทุกยุคสมัย นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ผสมผสานกับผลไม้ชนิดต่างๆ  กลายเป็น  สูตรค็อกเทล  หลากแบบหลายสไตล์  ตามชนิดของผลไม้นั้นๆ  เพื่อให้ทุกคนได้ดื่มเครื่องดื่มในงานปาร์ตี้อย่างดีที่สุด  ซึ่งได้รับการผลิตอย่างพิถีพิถันใส่ใจในทุกขั้นตอนการผลิตตั้งแต่การเลือกผลไม้ที่สดใหม่อยู่เสมอ  จึงทำให้ค็อกเทลได้รับความนิยมตามไปด้วยรองจากวอดก้า  ซึ่ง Smirnoff คือ วอดก้า ที่ดีเลิศนั่นเอง ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีใครล้มอันดับหนึ่งได้เลย


       อย่างไรก็ตาม  วอดก้า  ก็มีพัฒนาการที่ดีอย่างต่อเนื่องด้วยความใส่ใจในรายละเอียดตั้งแต่ต้นจนจบ  นอกจากนี้ยังมีเรื่องเกี่ยวกับการตกแต่งร้านขายเครื่องดื่มให้กับบรรยากาศที่น่ารักไปอีก  ด้วยการนำดอกไม้มาตกแต่งสถานที่ร้านให้ดูดีขึ้นอีกด้วย  ตลอดจนการนำ สูตรค็อกเทล  มาดัดแปลงทั้งยังพร้อมที่จะพัฒนาต่อไปด้วยความมุ่งมั่นพร้อมฝ่าฟันไปพร้อมๆ กับผู้ผลิตทุกคนให้จงได้  ด้วยการรวมตัวกันทำแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อไป  ด้วยความมีใจรักพร้อมทั่งสร้างพลังบวกให้กับตัวเองด้วยการให้โดยไม่หงวังสิ่งตอบแทน  อันจะนำมาซึ่งความเบิกบานใจ  พร้อมรอต้อนรับช่วงเทศกาลอย่างมีความสุขในทุกช่วงเวลาของชีวิต  เพื่อการรังสรรค์สิ่งที่ดีมีประโยชน์สำหรับทุคนให้ได้รับความภาคภูมิใจ  ที่แม้กระทั่งเงินตรานั้นเรียกได้ว่าไม่มีความหมายเลย  เนื่องมาจากความสุขและความสบายใจจากงานที่ทำอยู่  ได้แก่  การเสิร์ฟเครื่องดื่ม  หรือการใช้งานด้วยความขยัน  กล้าเผชิญหน้าในทุรูปแบบเพื่อให้มีความแข็งแกร่งดุจภูผาต่อไปได้แบบไม่มีสะดุด


       การผสมผสานสูตรต่างๆของค็อกเทลนั้นสามารถนำสิ่งต่างๆที่มีอยู่ในห้องครัวหรือตู้เย็นได้แก่ ผัก ผลไม้ มามิกซ์แอนด์แมทให้เข้ากันทำให้เกิดเป็นเมนูค็อกเทลใหม่ที่ครบถ้วนทั้งรสชาติและสีสันที่ดี  ทั้งยังแฝงไปด้วยการบำรุงรักษาโรค  ได้อีกด้วย ซึ่งการทำสูตรค็อกเทลแต่ละตัวขึ้นมานั้นเรียกได้ว่าต้องมีแรงบันดาลใจอย่างมากมาย  เพราะการที่จะปรุงแต่งให้เข้ากัน  สีสันก็เป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้  เพราะทำให้การดื่มเครื่องดื่มมีอารมณ์ที่สุนทรีมากขึ้น  ยิ่งไปกว่านั้นสูตรค็อกเทล การผสมผสานยังได้รับอิทธิพลมาจากดอกไม้นานาพรรณ  โดยการนำดอกกล้วยไม้มาผสมไว้ในค็อกเทลอีกด้วยเพื่อช่วยสร้างสีสันและรสชาติที่แปลกออกไปแต่ยังคงไว้ซึ่งความปราณีตในการตกแต่งอย่างลงตัว


      การผลิตเครื่องดื่มต่างๆขึ้นมา  เพื่อสร้างความผ่อนคลายให้เกิดขึ้นกับผู้ที่ชอบดื่ม ไม่ว่าคุณจะเครียดจากสิ่งใดมาบ้าง  ถ้าได้ลองชิมรสชาติของ สูตรค็อกเทล แล้วล่ะก็คุณจะอร่อยจนวางไม่ลงเลยทีเดียว  เรียกได้ว่าหมดแก้วแบบไม่รู้ตัวกันเลย  ซึ่งสิ่งนี้คือมนตร์เสน่ห์ของ วอดก้า ชั้นเยี่ยมที่รอให้คุณได้มาสัมผัสให้เห็นกับตาตนเอง  ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องเป็นคนที่มีใจรักในการดื่มเครื่องดื่มพอสมควร  เพราะเจ้าตัวนี้ถ้าดื่มมากๆอาจควบคุมสติไม่ได้หากดื่มไม่เก่งพอ  โดยการรังสรรค์เครื่องดื่มนี้นั้นเกิดจากความต้องการดื่มของผู้คนในประเทศ  ที่ต้องการความหลากหลายมากขึ้น  ไม่ว่าจะเป็นอาหารตลอดจนเครื่องดื่มต่างๆให้ได้มาลิ้มชิมรสกัน
     


3
          ค็อกเทล เป็นเครื่องดื่มชนิดหนึ่งที่เป็นการใช้เหล้าต่างๆ ผสมเข้ากับน้ำแข็งและน้ำผลไม้เพื่อการเพิ่มสีสันและรสชาติ จากนั้นใส่นำแข็ง จึงได้ทำการเขย่าๆ เป็นเครื่องดื่มที่นิยมดื่มก่อนอาหาร โดยมีต้อนกำเนิดมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 14 จากประเทศฝรั่งเศส ในสมัยนั้นเป็นการผสมระหว่างเบียร์ เหล้า และน้ำผึ้ง ผสมกับเครื่องเทศ ต่อมาจึงได้มีการปรับเปลี่ยนเป็นการผสมกับไวน์ เหล้า เครื่องเทศ น้ำตาล และน้ำผลไม้มาผสมกัน อันนี้ก็เป็นส่วนความรู้คร่าวๆ ของที่มาของค็อกเทลตั้งแต่ในอดีต ซึ่งในปัจจุบันนี้ค็อกเทลที่อร่อยนั้น มีสูตรค็อกเทลมากมาย ที่ทำให้เราได้เรียนรู้และสามารถนำมาทดลองประยุกต์ใช้ได้ในชีวิตประจำวันด้านการปาร์ตี้ การสังสรรค์ในสังคมต่างๆ

          แต่พวกเรารู้กันหรือไม่ว่า กว่าจะมาเป็นค็อกเทล 1 แก้วนั้น ต้องเป็นการผสมส่วนผสมต่างๆ อย่าลงตัว จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ตามมาดูกันเลย


1. ส่วนผสมหลักที่ลงตัว วอดก้าเป็นอีกหนึ่งงส่วนผสมหละกของการทำค็อกเทล ที่ไม่ว่าจะเป็นสูตรไหรก็ตามแต่ วอดก้า จะต้องเป็นส่วนประกอบทที่สสำคัญ จนเรียกว่าเป็นส่วนประกอบหลักเลยก็ว่าได้ แต่ต้องใช้เป็นส่วนผสมที่ลงตัวพอดี

2. ส่วนผสมย่อยที่เข้าที ส่วนผสมย่อยของการทำค็อกเทล เช่น น้ำผลไม้ต่างๆ ที่นำมาใช้ตัด เสริม เติม แต่งรสชาติของค็อกเทล ล้วนเป็นตัวที่ทำให้ค็อกเทลแต่ละสูตรแสดงลักษณะเด่นๆ ออกมา เช่น ด้วยการผสมน้ำผลไลงไปในสูตรค็อกเทลแต่ละสูตรนั่นเอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องมีส่วนผสมตามสูตรค็อกเทลแต่ละสูตรอย่างลงตัว เป็นส่วนผสมย่อยที่เข้าที่ ที่จะทำให้ค็อกเทลแก้วนั้นๆ มีรสชาติที่อร่อยหรือไม่
3. เลือกใช้วิธีการที่เหมาะสม วิธีการในการทำเครื่องดื่มค็อกเทล มีวิธีการที่หลากหลายร้อยแปดพันเก้าวิธีการที่เราสามารถจะเลือกใช้มาในการทำค็อกเทล ทั้งเป็นการผสมธรรมดา การคน หรือเป็นการเทเป็นชั้นๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนจะเป็นตัวที่ส่งผลให้กับรสชาติของค็อกเทลได้เสมอ ดังนั้น การเลือกวิธีการทำที่ดี ที่เหมาะสมก็ช่วยทำให้ค็อกเทลแต่ละสูตรค็อกเทล ล้วนมีรสชาติที่แตกต่างกันออกไปนั่นเองนะครับ

4. เทคนิคการทำที่เป็นเลิศ นอกจากส่วนประกอบหลัก ส่วนประกอบย่อยที่นำมาผสมรวมกันกลายเป็นค็อกเทล  แก้วนั้น การเลือกใช้วิธีการที่เหมาะสมในการผสมค็อกเทลก็มีผล นอกจากนี้ เทคนิคในการทำที่เป็นเลิศยังช่วยเป็นตัวชูที่ทำให้ค็อกเทลแก้วนั้น ที่เราทำตามสูตรออกมาจะเป็นค็อกเทคที่ดี มีรสชาติอร่อยหรือไม่ หรือมีความเหมาะสมหรือไม่ เทคนิคต่างๆ เพิ่มเติมที่บาร์เทนเดอร์จะดึงออกมาใช้งาน ย่อมมีผลต่อรสชาติของการทำค็อกเทลทั้งสิ้น

5. กระบวนการนำเสนอที่เป็นเยี่ยม กระบวนการนำเสนอ ในข้อนี้เป็นสิ่งสุดท้ายที่เราจะมอง พูดง่ายๆ ก็เปรียบเสมือนเป็นการแต่งตัวให้กับค็อกเทลแก้วนั้นๆ เพื่อให้มีความสวยงาม น่ามอง ด้วยเทคนิคต่างๆ ที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการตกแต่งด้วยผลไม้ตามขอบแก้ว เป็นต้น หรือการนำเสนอค็อกเทลออกมาด้วยรูปแบบที่แตกต่างกัน อาจแสดงออกมาเป็นชั้นๆ ทั้งนี้ก็เพื่อเพิ่มความสวยงาม ช่วยให้ดึงดูดสายตาของผู้ชม ผู้ดื่ม ให้เปิดความสนใจในค็อกเทลแก้วนี้นั่นเอง



จากข้อมูล เรื่องราวที่ได้มีการนำเสนอมาข้างต้นนั้น จะเห็นว่าการที่เราจะทำค็อกเทลสัก  1 แก้ว ย่อมมีส่วนประกอบ มีรายละเอียดต่างๆ ที่ต้องใส่ใจแตกต่างกันออกไปยิบย่อย ล้วนเป้นตัวที่จะส่งผลกับรสชาติของค็อกเทลทั้งสิ้น
สูตรค็อกเทลแต่สูตรก็จะมีความแตกต่างในเรื่องของปริมาณ สัดส่วนที่ปรับเปลี่ยน เติมแต่งในแต่ละส่วนประกอบที่แตกต่างกันออกไป เพื่อให้ค็อกเทลแต่ละแก้วนั้น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีลักษณะโดดเด่นที่ไม่หมือนกัน

        ดื่มสูตรค็อกเทลนี้ ดื่มค็อกเทลสูตรนั้นก็ช่วยทำให้เกิดความแตกต่าง สัมผัสของรสที่ไม่เหมือนกัน ทั้งนี้ก็เกิดจากการทำส่วนผสมหลักและส่วนผสมย่อยที่แต่กต่างกันออกไปนั่นเอง แต่ทั้งนี้นอกจากในเรื่องของส่วนผสมที่ใช้ในการทำค๊อกเทล การผสมส่วนต่างๆ ดังที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ก็ยังมีเทคนิคอีกมากมายที่เกี่ยวข้องกับการทำค็อกเทล ล้วนแล้วแต่จะช่วยส่งผลให้กับคุณภาพ และรสชติของค็อกเทลเช่นเดียวกัน แม้แต่ในเรื่องของการเลือกน้ำแข็ง ลักาณะของเครื่องดื่มค็อกเทลเราเป็นอย่างไร มีความต้องการแบบไหน ต้องการน้ำแข็งละลายช้า ละลายเร็ว ต้องใช้น้ำแข็งที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ก็ล้วนจะมีผลกับรสชาติของค็อกเทลทั้งสิ้น ดังนั้นกว่าจะเป็นค็อกเทล 1 แก้ว มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย


4
           คนเราตีความเหมารวมเอาว่าแอลกอฮอล์ไม่ดีต่อสุขภาพ นั่นคือกรณีที่ดื่มแบบเกินพอดี ดื่มจนขาดสติ และแม้ว่าวอดก้าเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก็มักถูกตีหน้าว่าทำลายและทำร้ายสุขภาพไปด้วย แต่มองให้ดี ไม่ว่าสิ่งใดในโลกล้วนมีทั้งดีและไม่ดีคู่กันเสมอ วอดก้าในมุมที่เป็นประโยชน์ก็มี วอดก้าจึงเป็นเครื่องดื่มสูตรค็อกเทลที่หากดื่มอย่างพอดี และมีการควบคุมสติก็มีประโยชน์เช่นกัน

           วอดก้าเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เกิดจากการหมักกากน้ำตาลของธัญพืชหลักๆ ได้แก่ ข้าวไรย์ มันฝรั่ง เมล็ดข้าวโพด  และข้าวสาลี นำมากลั่นบริสุทธิ์ ยิ่งกลั่นมากครั้งก็ยิ่งให้ความบริสุทธิ์มาก เมื่อกลั่นจะได้วอดก้าบริสุทธิ์ และเมื่อนำมาผสมเข้ากับน้ำผลไม้รสชาติต่างๆ เช่น น้ำผลไม้สด ซึ่งเป็นตัวชูโรงให้สูตรค็อกเทลมีรสชาติดี และได้รับความนิยมกันมาก  ไม่ว่าจะภูมิภาคไหนในโลกล้วนรู้จักและนิยมดื่มวอดก้า หรือยอมรับว่าวอดก้าเป็นหนึ่งในส่วนผสมหลักของเครื่องดื่มสูตรค็อกเทล ทว่า วอดก้าก็ไม่ได้มีดีหรือมีประโยชน์แค่เป็นเครื่องดื่มสูตรค็อกเทล แต่วอดก้ายังมีประโยชน์นอกเหนือไปจากนั้นอีกมาก ยกตัวอย่างดังด้านล่าง

           วอดก้าเครื่องดื่มสูตรค็อกเทลที่ดื่มแล้วอ้วนยาก... เพราะหนึ่งชอตของวอดก้าให้แคลอรีไม่ถึงหนึ่งร้อย แคลอรี วอดก้าเครื่องดื่มสูตรค็อกเทลที่มีแคลอรีต่ำหากเทียบกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อื่นๆ ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ เบียร์ โดยเบียร์ให้แคลอรีจำนวน 153 แคลอรี วอดก้าเครื่องดื่มสูตรค็อกเทลที่ดื่มแล้วอ้วนยากเหมาะแก่ผู้ควบคุมน้ำหนัก

          วอดก้าเครื่องดื่มสูตรค็อกเทลที่ช่วยลดความเครียดได้ดี... เพราะคนๆ หนึ่งไม่ได้มีแค่ความสุขและภาพจำที่สวยงามเสมอไป เราล้วนต้องเจอกับความเครียดกันทุกคน  และสิ่งหนึ่งที่เป็นการปลดปล่อยความตึงเครียดทั้งหลายก็คือการดื่ม  ไม่ว่าจะดื่มเพื่อปลดปล่อย ดื่มเพื่อลืม ดื่มเพื่อความมันส์ จะอะไรก็แล้วแต่

          วอดก้าเครื่องดื่มสูตรค็อกเทลที่ช่วยลดความเครียดได้ดี  เหนือสิ่งอื่นใดใครๆ ก็รู้ดีว่าความเครียดส่งผลต่อทั้งสุขภาพกายและสุขภาพาจิต อาการที่เกิดจากความเครียดคือ หายใจแรง ปวดเมื่อยตามตัว ความดันโลหิตสูง โรคกระเพาะ   นอนไม่หลับ  อารมณ์แปรปรวน การรักษาจึงเป็นสิ่งจำเป็น แต่สำหรับคนที่ยังไม่อยากเครียดจนต้องพบแพทย์ลองหาเครื่องดื่มเบา ดื่มผ่อนคลายความเครียดสักหน่อยก็ช่วยได้ วอดก้าเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มสูตรค็อกเทลที่ช่วยลดความเครียดได้ดี ดีพอๆ กับการดื่มไวน์แดง

         วอดก้าเครื่องดื่มสูตรค็อกเทลที่ช่วยลดอัตราความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์... มีผลการกกวิจัยที่บ่งบอกว่าวอดก้าเครื่องดื่มสูตรค็อกเทลช่วยลดความเสี่ยงของโรคความจำเสื่อมได้ อย่างไรก็ดี ผลการศึกษาระบุว่าต้องเป็นการดื่มในปริมาณที่พอเหมาะเท่านั้น เพราะเซลล์ที่กำลังจะเสื่อมจะฟื้นตัวได้ดีกว่าพวกคอทองแดง

         วอดก้าเครื่องดื่มสูตรค็อกเทลเหมาะกับคนขี้แพ้... เพราะวอดก้าปราศจากกลูเตนด้วยเพราะผลิตจากธัญพืชหลักๆ คือ ข้าวไรย์ องุ่น และข้าวสาลี

         วอดก้าเครื่องดื่มสูตรค็อกเทลที่ดีต่อใจ...ใจในที่นี่หมายถึงดีต่อหัวใจ วอดก้าช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการสูบฉีดและการไหลเวียนโลหิต เมื่อระบบไหลเวียนดีก็ป้องกันหลอดเลือดอุตดัน ป้องกันอาหารสโตรค และป้องกันโรคหัวใจ

         นอกเหนือไปจากดีต่อใจแล้ว วอดก้าเครื่องดื่มสูตรค็อกเทลยังดีต่อผิว... ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า วอดก้านำมาใช้ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว หรือ  skincare product วอดก้าทำหน้าที่เป็นโทนเนอร์ชั้นดีในการทำความสะอาดผิว วอดก้าทำความสะอาดผิวพรรณได้อย่างสะอาดล้ำลึก และยังช่วยกระชับรูขุมขน จากรูขุมขนที่กว้างและเห็นได้ชัด เมื่อใช้ต่อเนื่องรูขุมขนดูเล็กลง นอกจากนี้ วอดก้ายังเหมาะกับผิวแพ้ง่ายอีกด้วย และไม่เพียงแค่ดีต่อผิว วอดก้ายังดีต่อผม โดยผสมวอดก้าในแชมพูที่บีบลงฝ่ามือแล้ว ชะโลมสระผม ผมจะนุ่มราวกับผ่านการหมักด้วยครีมนวด
 
        วอดก้าประโยชน์ต่ออุปกรณ์ต่างๆ...วอดก้าไม่ได้เป็นแค่เพียงเครื่องดื่มสูตรค็อกเทลที่ดีต่อผิว ดีต่อสุขภาพเท่านั้น แต่วอดก้ายังมีประโยชน์อื่นๆ อีกมาก ทั้งใช้เช็ดทำความสะอาดกระจก หรือแว่นตา คุณผู้ชายบางท่านอาจนำวอดก้ามาเทใส่ถ้วยและนำใบมีมาแช่ไว้ เพื่อกำจัดสนิม ในขณะที่คุณแม่บ้านจะเทวอดก้าเล็กน้อยใส่ในแจกันเพื่อแช่ดอกไม้ เพราะวอดก้าช่วยคงความสดของดอกไม้ไว้ได้ยาวนาน  
        เพราะของใดๆ ในโลก มีทั้งดีและเสีย การเลือกใช้ เลือกดื่มวอดก้า ในฐานะเครื่องดื่มสูตรค็อกเทลอย่างพอเหมาะพอเจาะก็มีประโยชน์ต่อร่างกาย  หรือการใช้วอดก้าในด้านอรรถประโยชน์อื่นๆ ได้อีกมาก

5
             งานไหนๆ ก็ต้องมีเครื่องดื่มไว้คอยบริการ  ยิ่งงานสังสรรค์ในหมู่วัยรุ่นด้วยแล้ว   เครื่องดื่มที่มีสีสันสวยงามผสานเข้ากันกับรสชาติที่แปลกใหม่เห็นจะขาดเสียไม่ได้  เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศที่เป็นกันเองรวมถึงบรรยากาศที่สนุกสนานน่าประทับใจ  โดยเฉพาะค็อกเทลที่จะมีหลากหลายรูปแบบให้เลือกไม่มีสูตรค็อกเทลตายตัวสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของผู้ดื่มที่มักลองลิ้มชิมรสอย่างไม่ขาดปาก  ซึ่งค็อกเทลจัดเป็นเครื่องดื่มชนิดหนึ่ง โดยใช้วอดก้าตลอดจนเหล้าชนิดต่าง ๆ ผสมกัน ใส่น้ำแข็งแล้วเขย่าอาจใส่น้ำผลไม้หรือชิ้นผลไม้เพื่อเพิ่มความสวยงามสะดุดตาของค็อกเทล ซึ่งนิยมดื่มก่อนอาหาร  

       ส่วนผสมชนิดหนึ่งในสูตรค็อกเทล คือ วอดก้าใช้ผสมสำหรับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดอื่น ซึ่งค็อกเทลนั้นมีส่วนผสมจากวอดก้าหลายสูตรและหลายแบรนด์ด้วยกัน  เช่น Smirnoff  จัดเป็นเหล้าเกรด A  กลั่นมาจากมันฝรั่งผสมเมล็ดข้าว เหล้าสีขาวบริสุทธิ์ โดยการกลั่นซ้ำแล้วซ้ำอีกจนใสบริสุทธิ์ไร้สี กลิ่น รส มีปริมาณดีกรีแอลกอฮอล์ประมาณ37.50-40%คิดค้นโดยคนในตระกูล Smirnoff  เหล้ายี่ห้อนี้แบ่งออกเป็น 3 แบรนด์ ดังนี้

1   Smirnoff Red Label มีขายทั่วไป

2   Smirnoff Blue Label ผลิตที่ประเทศสหรัฐอเมริกาแต่ส่งไปขายในประเทศรัสเซีย

3   Smirnoff Black Label ผลิตที่กรุงมอสโคประเทศรัสเซีย เหล้าชนิดนี้จริงๆ แล้วมีสายพันธุ์หรือสูตรผสมมาจากชาวรัสเซีย
   โดยเหล้าชนิดนี้ทำการส่งออกและขายดีติดอันดับ 1 ใน 3 ด้วย  ค็อกเทลจะมีความน่าดื่มด่ำและชวนหลงใหลมากน้อยเพียงใดเรามารู้จักสูตรค็อกเทลกันเลย  ซึ่งสามารถนำไปทำเองกันง่ายๆ ได้ที่บ้านปาร์ตี้เบาๆ กับแก๊งเพื่อน ด้วยสูตรดังต่อไปนี้

1   Old Fashioned  ใช้เบอร์เบิน (อเมริกันวิสกี้) 2.5 ออนซ์ + น้ำตาลแดง ครึ่งออนซ์ + เหล้าบิทเทอร์ 3 ฝา + น้ำแข็งก้อนเย็นๆ เตรียมใส่แก้วให้พร้อม + ผสมมะนาวและส้มลงไปเล็กน้อยเพื่อความลงตัว

2   Mint Julep เบอร์เบิน 2 ออนซ์ + น้ำตาลทรายแดงประมาณ 3/4 ของ 1 ออนซ์ + ใบมิ้นท์ + คนส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน + ตกแต่งเครื่องดื่มด้วยใบมิ้นท์หอมๆ ก็พร้อมดื่ม

3   Whiskey Sour เบอร์เบิน 2 ออนซ์ + น้ำตาลทรายแดง 1 ออนซ์ + น้ำมะนาว 1 ออนซ์ + ไข่ขาว 1 ฟอง + เหล้าบิทเทอร์ 1 ฝา + ผสมวัตถุดิบทั้ง 4 อย่างให้เข้ากัน ใส่น้ำแข็ง และเขย่าอีกครั้ง + นำเครื่องดื่มเทใส่แก้ว และปิดท้ายด้วยเหล้าบิทเทอร์ 1 ฝา
4   Moscow Muleวอดก้า 2 ออนซ์ + เบียร์น้ำขิง + น้ำมะนาวครึ่งออนซ์ + ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในแก้ว ‘Moscow Mule’ ตามด้วยน้ำแข็ง และคนให้เข้ากัน จากนั้นก็พร้อมเสิร์ฟ

5   Mojito เหล้ารัมขาว 2 ออนซ์ + น้ำเชื่อม 1 ออนซ์ + ใบมิ้นท์ + น้ำมะนาว 1 ออนซ์ + นำใบมิ้นท์มาคลุกเคล้ากับน้ำเชื่อมให้เข้ากันและเหล้ารัมขาวให้เข้ากัน จากนั้นก็ใส่น้ำแข็งพร้อมดื่มได้ทันที

6   Tom Collins เหล้ารัมขาว 2 ออนซ์ + น้ำเชื่อม 1 ออนซ์ + ใบมิ้นท์ + น้ำมะนาว 1 ออนซ์ + นำใบมิ้นท์มาคลุกเคล้ากับน้ำเชื่อมให้เข้ากัน และเหล้ารัมขาวให้เข้ากัน จากนั้นก็ใส่น้ำแข็งพร้อมดื่ม

7   Negroni เหล้ายิน 1/4 ออนซ์ + เหล้า Campari 1/4 ออนซ์ + เวอร์มุท 1/4 ออนซ์ + ผสมทุกอย่างให้เข้ากัน เทลงในแก้วที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งเย็นๆ จากนั้นตกแต่งด้วยผลส้มอีกเล็กน้อย

8   Caipirinha เหล้าคาชาซ่า 2 ออนซ์ + น้ำตาลทรายขาว 1 ช้อนโต๊ะ + มะนาวครึ่งลูกผ่าเป็นซีกให้ได้ 8 ซีก + คลุกเคล้าลงในแก้วให้เข้ากัน จากนั้นก็พร้อมดื่มได้เลย

9   Margarita เตกีล่า 2 ออนซ์ + เหล้า Triple Sec ครึ่งออนซ์ + น้ำมะนาว 1 ออนซ์ + ไซรับยี่ห้อ Amber Agave ครึ่งออนซ์ + ผสมทั้งหมดลงในที่เขย่า จากนั้นใส่น้ำแข็งตามลงไป พร้อมกับเขย่าอีกครั้ง + เทลงในแก้วค็อกเทลสุดชิค พร้อมเสิร์ฟ

         สูตรค็อกเทลที่นำมาฝากนี้น่าจะเป็นที่โปรดปรานของใครหลายคนที่ชอบดื่มเครื่องดื่มชนิดนี้เป็นชีวิตจิตใจ นอกจากสูตรของค็อกเทลที่ผสมวอดก้าแล้วยังมี  ค็อกเทลอีกหลากหลายรสชาติให้ได้ลิ้มลองตามแต่ชอบ  ซึ่งปัจจุบันเราสามารถเปลี่ยนแปลงสูตรได้  เพื่อให้เข้าวัตถุดิบที่เรามี  และยังนำมาซึ่งความภูมิใจตลอดจนความประหยัดเพราะเราสามารถทำเองได้ง่ายๆที่บ้าน  ก่อนที่จะจัดงานปาร์ตี้กับเพื่อนฝูงด้วยความสนุกสนานและเป็นกันเอง  ทั้งยังช่วยสร้างบรรยากาศดีๆในงานปาร์ตี้ที่บ้านได้อีกด้วย  

6
     
       แม้ว่าต้นกำเนิดของวอดก้า (VODKA) จะมีแหล่งตั้งต้นมาจากยุโรป แถบประเทศโปแลนด์ ยูเครน  รัสเซีย วอดก้าเป็นส่วนประกอบหลักหนึ่งในเครื่องดื่มสูตรค็อกเทลต่างๆ   หากให้คาดการณ์ว่าเหตุใดวอดก้าจึงเป็นที่นิยมในประเทศเขตหนาวก็เพราะเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ทานแล้วสร้างความอบอุ่นให้ร่างกาย  เมื่อดื่มวอดก้า อุณหภูมิในร่างกายจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย  ไม่เพียงแค่วอดก้ามีแหล่งตั้งต้นจากยุโรป แต่วอดก้าก็เป็นที่นิยมไปทั่วโลก ทั้งอเมริกา หรือกระทั่งเอเชียเองก็ตาม ทำไมหลายประเทศทั่วโลกจึงหลงรักวอดก้า

        ด้วยความเข้มของวอดก้าที่ตัดกับความหวานละมุนของน้ำผลไม้ หรือส่วนผสมอื่นๆ ทำให้รสชาติของวอดก้าพิเศษ ไม่เหมือนเครื่องดื่มทั่วไป วอดก้าเกิดจากการหมักกากน้ำตาลของธัญพืชหลักๆ ได้แก่ ข้าวไรย์ มันฝรั่ง เมล็ดข้าวโพด  และข้าวสาลี นำมากลั่นบริสุทธิ์ ยิ่งกลั่นมากครั้งก็ยิ่งให้ความบริสุทธิ์มาก  เมื่อได้วอดก้าแล้วนำมาผสมเข้ากับน้ำผลไม้รสชาติต่างๆ เช่น น้ำผลไม้สด ซึ่งเป็นตัวชูโรงให้สูตรค็อกเทลมีรสชาติดี และได้รับความนิยมกันมาก น้ำผลไม้สดยังช่วยให้เครื่องดื่มมีกลิ่นหอม น้ำผลไม้ในบ้านเรายังหาได้ง่ายทั่วไป อีกทั้งยังช่วยให้เครื่องดื่มสูตรค็อกเทลผสมได้ง่ายและสะดวกรวดเร็วขึ้น  หรือหากเลือกน้ำผลไม้สังเคราะห์เข้มข้นก็สามารถใช้ได้ แต่แนะนำให้เจือจางด้วยน้ำอุ่นก่อน  หรือการผสมวอดก้าเข้ากับน้ำเชื่อมผลไม้ หรือ Fruit Syrup  รสชาติที่เป็นที่นิยม คือ น้ำเชื่อมรสทับทิม (Grenadine)  รสอัลมอนด์ (Orgeat)  รสสตรอเบอร์รี่ (Fraise) รสแบลคเคอแรนท์   เป็นต้น

       ใครจะเชื่อว่าส่วนประกอบหวานๆอย่างครีมจะลงตัวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ลงตัว... ครีม (Cream)  หรือครีมสด (Fresh Cream) สีขาว ฟู นุ่ม เมื่อผสมกับวอดก้าทำให้สีของเหล้าสีใสกลายเป็นสีน้ำตาลละมุนได้ในทันที วอดก้าที่ผสมเข้ากับครีม (Cream)  หรือครีมสด (Fresh Cream) สีขาว ฟู นุ่มนิยมใช้ดื่มหลังมื้ออาหาร ส่วนรสที่ได้จะมีรสชาติหวานมัน   แม้กระทั่งวอดก้าที่ผสมกับไข่ ทั้งไข่ขาวและไข่แดง ฟังดูอาจไม่เข้าที่เข้าท่าสักเท่าไหร่ แต่เชื่อหรือไม่ว่า วอดก้าผสมไข่ทำให้เครื่องดื่มเข้มข้น ไข่แดงที่ใช้ผสมกับวอดก้าจะใช้จะใช้ทั้งฟอง และทริคสำหรับการผสมวอดก้ากับไข่คือต้องแยกไข่แดงออกจากไข่ขาว

       ไอศกรีมเป็นอีกหนึ่งความไม่น่าเข้ากันในกรณีการใช้วอดก้าเป็นส่วนผสมสูตรค็อกเทล...ไอศกรีมในเครื่องดื่มสูตรค็อกเทลสามารถใช้แทนเครื่องดื่มสูตรค็อกเทลที่ใช้น้ำแข็ง ด้วยรสชาติหวานเย็นของไอศกรีมทำให้วอดก้ากลายเป็นความน่าตื่นเต้นที่พอดิบพอดีอย่างมีเสน่ห์  
การใช้ไอศกรีมในเครื่องดื่มค็อกเทลจะใช้แทนน้ำแข็ง โดยใส่ในเครื่องดื่มประเภทปั่น ไอศกรีมมีสี กลิ่น รส และความเย็นอยู่แล้ว เราอาจผสมเป็นเครื่องดื่มแทนของหวาน ใช้ดื่มหลังอาหาร บางเมนูก็ใช้เป็นวัตถุดิบรองในค็อกเทล หรือ ม็อกเทลนั้นๆ
หาซื้อได้ง่ายในบ้านเรา... Smirnoff เป็นวอดก้าที่คนไทยรู้จักและมียอดจำหน่ายอันดับหนึ่ง วอดก้า  Smirnoff  เป็นวอดก้าที่มีรสไม่ขมมาก ผู้หญิงดื่มได้ผู้ชายก็ดื่มได้นานยิ่งขึ้น โดยไม่แฮงค์  

        สีสวยแบบเป็นเอกลักษณ์ ... แม้ตัววอดก้าเองเป็นสุราที่ไม่มีสี เรียกว่าสีใส ไม่มีกลิ่น ไม่มีรสชาติ แต่เมื่อผสมเข้ากับน้ำผลไม้ น้ำเชื่อมต่างๆ ทำให้จากเหล้าใสๆ กลายเป็นวอดก้าสีสันในทันที เช่นการนำวอดก้าไปผสมเข้ากับราสบ์เบอรี่ มินท์ แอปเปิ้ล น้ำมะเขือเทศ น้ำทับทิม ที่ให้สีแดง  

      เครื่องดื่มหรูคู่ลีลาเด่น...  เครื่องดื่มสูตรค็อกเทลจะมีท่วงท่าของการผสมเครื่องดื่มสูตรค็อกเทล ด้วยการเขย่า  แม้ว่าการเขย่าช่วยให้ส่วนผสมเข้ากันได้ดี แต่การเขย่าไม่ได้เป็นแค่เพียงการเน้นให้ส่วนผสมเข้ากัน แต่การเขย่าจะมีท่วงท่าที่ไฉไล เป็นการเพิ่มความน่าสนใจให้เครื่องดื่ม  

        ก่อนดื่มต้องชื่นชม... ด้วยการตกแต่งประดับประดาแก้วภาชนะใส่เครื่องดื่มสูตรค็อกเทล เป็นอาหารตาก่อนที่จะลิ้มรสเครื่องดื่มสูตรค็อกเทล การตกแต่งเช่น การใช้ไม้เสียบผลไม้เล็กๆ วางบนปากแก้ว  หรือการทาเกลือที่ปากแก้ว  หรือการฝานหรือเฉือนมะนาวเป็นแว่น หรือหมุนเป็นเกลียวประดับบนปากแก้ว    

วอดก้า จึงเป็นส่วนประกอบหลักของเครื่องดื่มสูตรค็อกเทลที่ลงตัวในทุกมุม ทุกมิติ ตั้งแต่ส่วนผสม ความฟิวชั่น ความหวือหวาแบบไม่น่าเชื่อแต่ลงตัว ลีลา  แบบนี้ไม่หลงรักก็แย่ไปหน่อย


หน้า: [1]