ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - เจลลีแบร์

หน้า: [1]
1
สาวๆ ที่เป็นสิวบ่อยคงจะรู้กันดีว่าสิ่งสกปรกในอากาศที่เราต้องเจอในแต่ละวันและสารเคมีจากครีมที่ใช้นั้นถือเป็นสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้ผิวหน้าของเราเกิดสิว ครีมกันแดดก็ถือว่าเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์สำหรับผิวหน้าที่เคลมว่าช่วยในการปกป้องบำรุงผิว หากแต่ว่ามีส่วนผสมของสารเคมีอยู่เยอะมากจนสาวๆ หลายคนต้องนั่งกุมขมับว่าใช้ไปแล้วหน้าฉันจะพังไหมนี่ แต่ไม่ต้องกลุ้มใจไปค่ะ เพราะวันนี้เรามีครีมกันแดดที่ดีที่สุดสำหรับสาวๆ มาแนะนำกัน รับรองว่าแม้เป็นสิวหรือผิวแพ้ง่ายก็สามารถทาได้แบบไม่ต้องกลัวหน้าพังเลยล่ะ
สำหรับสาวๆ ที่เป็นสิวบ่อยๆ หรือตอนนี้ก็เป็นสิวอยู่ การทาครีมกันแดดนั้นถือเป็นเรื่องเสี่ยง เพราะในครีมกันแดดนั้นมีส่วนผสมที่มาจากสารเคมีแรงๆ ที่อาจทำให้ผิวของเราเกิดอาการระคายเคืองอยู่มาก ไม่ว่าจะเป็นซิลิโคน น้ำหอม แอลกอฮอล์ สารกันเสีย หรือแม้แต่น้ำมันก็สามารถก่อให้เกิดสิวอุดตันได้ วิธีแก้คือให้สาวๆ เลือกครีมกันแดดสำหรับคนเป็นสิวที่ปราศจากสารเคมีที่ทำให้เกิดอาการแพ้ต่างๆ เลือกแบบที่เป็น non-comedogenic ด้วย เพื่อที่ผิวจะได้ไม่เกิดการอุดตันแน่นอน
สำหรับสาวๆ ที่ผิวแข็งแรงหน่อย ไม่ได้แพ้สารเคมี แต่ก็ยังเป็นสิวบ่อย สาเหตุหนึ่งอาจมาจากความมันที่มากับครีมกันแดด เมื่อความมันในครีมกันแดดไปผสมกับความมันบนผิวหน้า เหงื่อไคล และสิ่งสกปรกต่างๆ ที่ปะปนมากับอากาศ ก็อาจจะก่อเกิดเป็นสิวผดหรือสิวอุดตันขึ้นมาได้ วิธีแก้คือให้สาวๆ ใช้ครีมกันแดดคุมมันที่ปริมาณน้ำมันน้อย ครีมกันแดดออยล์ฟรี หรือสเปรย์กันแดดเนื้อน้ำแทน เพื่อที่ผิวจะได้ไม่ต้องเผชิญกับความมันจำนวนมากจนก่อให้เกิดสิวค่ะ
เพียงแค่สาวๆ เลือกครีมกันแดดอย่างระมัดระวังตามวิธีที่เราบอกไปนี้ รับรองว่าไม่ว่าสภาพอากาศจะแย่แค่ไหน หรือสิวที่เป็นอยู่จะแย่เพียงไร แต่ครีมกันแดดของเราก็จะไม่ทำให้สภาพผิวของเราแย่ลงแน่ๆ สิวหายวันหายคืน แถมผิวยังได้รับการปกป้องจากรังสียูวีอย่างที่ควร แบบนี้ผิวขาวใสไร้สิวไม่หนีเราไปไหนแน่ๆ ค่ะ


2
        สาวๆ หลายคนที่ไม่ชอบทาครีมกันแดดหน้า มักมีข้ออ้างตลอดเวลาว่าผิวแพ้ง่ายไม่กล้าทาบ้างล่ะ เหนียวเหนอะหนะบ้างล่ะ บางทีก็ยอมรับกันตื้นๆ เลยว่าขี้เกียจ แต่ก็ใช่ว่ามีเหตุผลแล้วจะทำบ่ายเบี่ยงไม่ยอมทาครีมกันแดดแบบนี้ตลอดไปได้ เพราะรังสียูวีนั้นสามารถทำร้ายผิวของสาวๆ ได้ทุกที่ทุกเวลา เป็นต้นเหตุของทั้งปัญหาผิวคล้ำเสีย ผิวแห้ง และผิวเป็นสิวง่าย ดังนั้น วันนี้เราจึงมีวิธีดัดนิสัยสำหรับสาวๆ ที่มีข้ออ้างไม่อยากทาครีมกันแดดหน้ามาฝากกันค่ะ
   สำหรับคนที่ไม่อยากทาครีมกันแดด อ้างว่าผิวแพ้ง่าย
วิธีนี้แก้ไม่ยากเลยค่ะ เพียงแค่สาวๆ มองหาครีมกันแดดสำหรับผิวแพ้ง่ายหรือครีมกันแดดสำหรับคนเป็นสิวมาใช้ปัญหาผิวระคายเคืองเพราะสารเคมีจากครีมกันแดดก็จะหมดไป เพราะในครีมกันแดดสูตรสำหรับผิวแพ้ง่ายเป็นสิวนั้นไม่มีส่วนผสมของสารเคมีที่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองอย่างแอลกอฮอล์ น้ำหอม และสารกันเสีย ทาบ่อยขนาดไหนผิวก็ไม่เกิดอาการแพ้อย่างแน่นอน
สำหรับคนที่ไม่อยากทาครีมกันแดด อ้างว่าเหนียวหน้า
สาวๆ ผิวมันหลายคนมักประสบกับปัญหานี้ พอผิวมันแล้วยิ่งทากันแดดหน้าก็ยิ่งเหนียว ยิ่งเปิดโอกาสให้ผิวหน้าเป็นคราบ มีสิ่งสกปรกตกค้าง และเกิดสิวอุดตันได้ง่ายขึ้น ลองเปลี่ยนมาใช้ครีมกันแดดคุมมันหรือกันแดดชนิดออยล์ฟรีที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน หรือสเปรย์กันแดดเนื้อบางเบาแทน รับรองว่าซึมซาบเร็ว และช่วยควบคุมความมันให้หน้าไม่เยิ้มได้ตลอดวันแน่
สำหรับคนที่ไม่อยากทาครีมกันแดด อ้างว่าขี้เกียจ
ลองหารองพื้น บีบีครีม คุชชั่น หรือแป้งทาหน้าที่มีส่วนผสมของ SPF มาใช้ จะช่วยให้สาวๆ ไม่ต้องทาครีมทาแป้งทากันแดดหลายชั้นให้ยุ่งยากและช่วยลดอันตรายจากแสงแดดได้ระดับหนึ่ง แนะนำให้ใช้เป็นบีบีครีมผสม SPF เพราะนอกจากจะช่วยกันแดดได้ดีแล้วยังช่วยให้ผิวหน้าผ่อง ปกปิดรอยดำต่างๆ แถมยังสบายหน้ามากกว่าการทารองพื้นหรือกันแดดหลายๆ ชั้นอีกด้วย
หาวิธีมาช่วยขนาดนี้ จะหาข้ออ้างมาแถไม่ยอมทากันแดดอีกก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วล่ะค่ะ ยังไงก็อยากให้สาวๆ เตือนใจตัวเองอยู่เสมอว่าแสงแดดนั้นส่งผลอันตรายต่อผิวยังไง และอย่าลืมทาครีมกันแดดเป็นประจำจะดีกว่า ผิวของเราจะได้กระจ่างใจเปล่งปลั่งไปนานๆ ค่ะ

3
สำหรับสาวๆ ที่มีผิวหน้าแพ้ง่าย การดูแลรักษาความสะอาดนั้นถือเป็นเรื่องสำคัญอันดับหนึ่ง เพราะถ้าหากเราละเลยความสะอาดของผิวหน้าไปแค่นิดเดียว ก็อาจส่งผลให้เกิดสิวผดสิวอุดตันหรือปัญหาผิวอื่นๆ ขึ้นมาได้ แต่ก็ใช่ว่าแค่ล้างหน้าเฉยๆ แล้วผิวจะสะอาด หากสาวๆ อยากให้ผิวสะอาดหมดจดจนหน้าใสไร้สิวจริงๆ สาวๆ ก็ควรรู้จักวิธีการดูแลทำความสะอาดผิวแพ้ง่ายของเราอย่างถูกวิธีค่ะ
สาวๆ ควรเริ่มด้วยการใช้คลีนซิ่งผิวแพ้ง่ายสูตรอ่อนโยนเช็ดหน้าก่อน เพื่อชำระเอาคราบเครื่องสำอางหรือสิ่งสกปรกต่างๆ ที่ตกค้างอยู่บนใบหน้าออกไปในขั้นต้น ถือเป็นการรักษาสิวผดที่มักเกิดจากฝุ่นที่ตกค้างตามใบหน้าไปในตัวด้วย สำหรับสาวๆ ที่ไม่ได้แต่งหน้าหรือไม่ได้ออกไปไหนไกลอาจใช้สเปรย์น้ำแร่ฉีดลงบนแผ่นสำลีแล้วเช็ดหน้าก็ได้ เพราะอ่อนโยนกว่าและยังช่วยให้ผิวได้รับความชุ่มชื้นด้วย
ต่อมา ให้สาวๆ ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นเพื่อเป็นการเปิดรูขุมขนก่อน จากนั้นจึงใช้โฟมหรือเจลล้างหน้าสำหรับผิวแพ้ง่ายตาม ถูจนเกิดฟองให้ทั่วทุกซอกทุกมุม อย่าลืมถูบริเวณซอกข้างๆ จมูกด้วย จากนั้นล้างออกด้วยน้ำอุ่นอีกครั้ง การใช้น้ำอุ่นจะช่วยให้เรากำจัดสิ่งสกปรกและความมันได้ในทุกซอกทุกมุมบนใบหน้า แต่สาวๆ ก็อย่าลืมใช้น้ำเย็นตบเบาๆ หลังล้างหน้าเพื่อปิดรูขุมขนด้วย จะได้ไม่เกิดปัญหารูขุมขนกว้างตามมาภายหลัง
สุดท้าย สำหรับสาวๆ ที่อยากให้ผิวสะอาดสุดๆ การใช้โทนเนอร์ก็จัดว่าเป็นทางเลือกที่ดี สาวๆ ควรเลือกโทนเนอร์ที่ปราศจากแอลกอฮอล์ หรือใช้ผลิตภัณธ์จากธรรมชาติแทน เสร็จจากขั้นตอนการทำความสะอาดเหล่านี้ก็อย่าลืมบำรุงผิวด้วยครีมสำหรับผิวแพ้ง่ายเป็นสิวด้วย รับรองว่าหน้าแพ้ง่ายจะกลายเป็นหน้าใสไร้ปัญหาผิวในเร็ววันแน่นอน




4
หลังเลิกงานมาเนี่ยเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากนะคะ เพราะหลังจากที่ทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยกันมาทั้งวันแล้วก็ถึงเวลาที่สาวๆ จะได้พักผ่อนกันเสียที อ๊ะ อ๊ะ แต่อย่าเพิ่งล้มตัวลงนอนค่า จะเป็นเวิร์คกิ้งวูแมนทั้งที นอกจากทำงานเก่งแล้ว ก็ต้องมีผิวสวยหน้าใสไร้สิวด้วย ดังนั้น หลังเลิกงาน ก่อนที่จะไปนอนอืดหรือทำอะไรก็แล้วแต่ สาวๆ มาดูแลผิวกันก่อนดีกว่าค่ะ

ขั้นแรกเมื่อกลับมาถึงบ้าน สิ่งแรกที่สาวๆ ควรทำคือล้างหน้าก่อนเลยค่ะ เพราะหลังจากเผชิญแสงแดดและมลภาวะ แถมยังต้องแบกเครื่องสำอางหนาๆ ทั้งวัน ผิวของเราก็คงอยากพักหายใจบ้าง ใช้คลีนซิ่งผิวแพ้ง่ายทั่วไปหรือ Micellar Water เช็ดทำความสะอาดใบหน้า แล้วจึงค่อยไปล้างหน้า รับรองว่าหน้าเราจะสะอาดหมดจุด ไร้ความมันและสิ่งอุดตัน ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวผดสิวอุดตันนั่นเองค่า

การสครับผิวหน้าก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ควรทำนะคะ เพราะจะช่วยให้เซลล์ผิวที่ตายแล้วหลุดออก เผยผิวใหม่ที่สดใสกว่า แต่ก็อย่าทำบ่อยเกินไปนะคะ เพราะอาจทำให้หน้าแห้งได้ ทางที่ดีควรทำแค่อาทิตย์ละ 2 ครั้งเป็นอย่างมากค่ะ

หลักจากทำผิวหน้าให้สะอาดแล้ว เราก็มาปิดท้ายกันด้วยการบำรุงค่ะ อย่าขี้เกียจทามอยส์เจอร์ไรเซอร์กันนะคะสาวๆ เพราะมอยส์เจอร์ไรเซอร์จะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและกระตุ้นกระบวนการฟื้นฟูผิวตามธรรมชาติ เลือกครีมที่ใช้ให้เหมาะกับสภาพผิวหน้านะคะ เช่น ใครผิวแพ้ง่ายก็ใช้ครีมสำหรับผิวแพ้ง่ายเป็นสิว ใครผิวเสียลึกไปถึงผิวชั้นในก็ให้ใช้เซรั่ม ใครที่ขอบตาดำก็อย่าลืมทาอายครีมแก้แพนด้า ส่วนใครที่เป็นสิวก็ใช้ครีมลดสิวหรือครีมรักษาสิวผดตามปกติค่า

เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จพิธีการดูแลผิวหลังเลิกงานของเราแล้วค่ะ ต่อจากนี้ก็เชิญสาวๆ พักผ่อนกันให้สบายใจไปเลยยย


5
   ปัญหาสิวเป็นปัญหาผิวอันดับต้นๆ ที่กวนใจสาวๆ อยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะปัญหาสิวอุดตันนั้น เรียกได้ว่าเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อเลยทีเดียว เนื่องจากสาวๆ ต้องพบเจอกับทั้งมลภาวะ สิ่งสกปรก อากาศอบอ้าวและแสงแดดที่ร้อนจัดอยู่ทุกวัน ทำให้ผิวหน้าเกิดความมันส่วนเกินจนนำไปสู่การอุดตันจนเกิดเป็นสิวอุดตันเหล่านี้นั่นเอง แล้วเราควรทำยังไงเมื่อสิวอุดตันมากวนใจเราบ่อยขนาดนี้ การรักษาสิวอุดตันนั้นทำไม่ยาก เพียงแค่สาวๆ ทำตามขั้นตอนนี้ค่ะ
        ขั้นแรกคือการรักษาความสะอาด สิวอุดตันส่วนมากมักจะเกิดจากสิ่งสกปรกและความมันบนใบหน้า หากสาวๆ รักษาความสะอาดเป็นประจำ โอกาสที่สิวอุดตันจะเกิดขึ้นก็มีน้อยลง พยายามอย่าไปบีบบ แกะ เกา ใช้คลีนซิ่งสูตรอ่อนโยนเช็ดหน้า ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นแล้วตามด้วยน้ำเย็น และทำความสะอาดอุปกรณ์ที่ใช้กับผิวหน้าอย่างผ้าเช็ดหน้าหรือแปรงแต่งหน้าเป็นประจำด้วย
วิธีต่อมาคือการหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าหรือการใช้รองพื้นเนื้อหนา เนื่องจากรองพื้นและเครื่องสำอางหลายชนิดมักเข้าไปติดอยู่ตามซอกผิว หากเราล้างหน้าไม่สะอาดพอ โอกาสที่เครื่องสำอางที่ตกค้างจะมาผสมรวมกับความมันบนใบหน้าจนเกิดเป็นสิวอุดตันนั้นก็ยิ่งมีมาก สาวๆ จึงควรเปลี่ยนมาใช้เป็นบีบีครีมเนื้อบางเบาหรือใช้ครีมกันแดดเฉยๆ แทน แต่ถ้าจะให้รักษาสิวอุดตันให้ได้เร็วที่สุด ก็ควรเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางไปเลยค่ะ
ขั้นตอนสุดท้ายก็คือการใช้ยาและครีมบำรุงรักษา สาวๆ อาจจะไปปรึกษาคุณหมดเพื่อหาสาเหตุการเกิดสิวอุดตันและขอยามากินหรือครีมลดสิวอุดตันมาทา หมั่นทาเป็นประจำทุกวัน สิวอุดตันจะค่อยๆ ยุบลงไปเอง หากสาวๆ ทำตามขั้นตอนทั้งหมดนี้ได้ สิวอุดตันก็จะไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับเราอีกต่อไปค่ะ




6
การลงทุนถือว่าเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับตนเองโดยที่ไม่ต้องยุ่งยากไปทำธุรกิจใหม่ๆ ซึ่งถือว่าเป็นวิธีทำให้เงินงอกเงยที่สะดวกสบาย เหมาะกับคนรุ่นใหม่อย่างเราๆ เป็นอย่างมาก หลายคนก็ไปกู้เงิน ลงทุนครั้งหนึ่งทีละเยอะๆ หลายคนก็ลงทุนทีละเล็กทีละน้อยเพราะไม่อยากเจอกับความเสี่ยง นอกจากตั๋วแลกเงินแล้ว การลงทุนกับกองทุนรวมก็ถือว่าเป็นอีกตัวเลือกที่ดี เพราะว่าความเสี่ยงน้อย และเราก็ไม่จำเป็นต้องบริหารเงินด้วยตัวเอง แม้นักลงทุนหน้าใหม่ก็สามารถมาร่วมลงทุนด้วยกันได้ง่ายๆ แต่หากวันใดวันหนึ่งเรารู้สึกว่าตัวเองมีความมั่นคงทางการเงินพอสมควรจนอยากเปิดกองทุนเป็นของตัวเองแล้วล่ะก็ เราก็สามารถเริ่มเปิดกองทุนได้โดยที่ไม่ต้องลำบากไปยื่นเรื่องทำนู่นทำนี่หลายขั้นตอนเลย

การจะขอเปิดกองทุนนั้น หากเป็นแต่ก่อน เราก็คงต้องเตรียมเอกสารและหลักฐานอะไรต่อมิอะไรมากมายกว่าจะได้รับอนุมัติให้เปิดกองทุนสักกองทุนหนึ่ง หากแต่ว่าสมัยนี้ ในยุคดิจิทัลที่อะไรๆ ก็ง่ายไปเสียหมดแบบนี้ ขอเพียงแค่เรามีแอพธนาคารหรือ internet banking เราก็สามารถเปิดกองทุนเป็นของตัวเองได้ภายในคลิกเดียว

วิธีการเปิดกองทุนผ่านแอพนั้นก็ไม่มีอะไรยาก เพียงแค่กดเข้าแอพธนาคารที่เราใช้บริการเป็นประจำ กดเลือกธุรกรรมการเงิน แล้วกอดไปที่เปิดบัญชีกองทุนรวม กรอกรายละเอียดเล็กน้อย เมื่อกดเสร็จสิ้น เราก็จะได้กองทุนรวมเป็นของตัวเองแล้ว

การลงทุนผ่านทางกองทุนรวมนั้น นอกจากจะสะดวกสบายแล้ว ยังให้ผลกำไรอย่างงามอีกด้วย หากใครที่กำลังสนใจลงทุนอยู่ ก็อย่าลืมพิจารณาการร่วมลงทุนกับกองทุนรวมหรือการเปิดกองทุน รับรองว่าผลตอบแทนที่ได้มาจะทำให้คุณหยุดยิ้มไม่ได้เลยทีเดียว

7
สาวๆ หลายคนที่นั่งทำงานหงอยๆ ในออฟฟิศทั้งวันก็คงจะเข้าใจความน่าเบื่อนั้นดีใช่มั้ยล่ะคะ นั่งอยู่ในห้องแอร์ทั้งวันนอกจากจะทำให้ระบบทางเดินหายใจไม่ดีแล้วเนี่ย ยังทำให้ผิวของสาวๆ แห้งแตกเปรี๊ยะๆ อีก เพราะฉะนั้น สาวๆ จึงควรมี 4 ไอเท็มสำหรับประทินผิวติดโต๊ะทำงานไว้ เพื่อที่ผิวของเราจะได้ได้รับการบำรุงอย่างดี ไม่เสี่ยงต่อปัญหาผิวอื่นๆ ค่ะ
1.ครีมทาหน้าสูตรเข้มข้น ยิ่งสาวๆ นั่งในห้องแอร์นานเท่าไหร่ ผิวของเราก็ยิ่งมีโอกาสแห้งแตกมากขึ้นเท่านั้น สาวๆ จึงควรแบ่งครีมทาหน้าสูตรผสมมอยส์เจอไรเซอร์เข้มข้นใส่ไว้ในกระปุกเล็กๆ ติดโต๊ะทำงานไว้ทายามที่รู้สึกว่าผิวแห้ง นอกจากทาหน้าได้แล้ว แขน ข้อศอก มือ ขา ที่แห้งอยู่บ่อยๆ ก็สามารถนำครีมตัวนี้มาทาแก้ขัดแทนโลชั่นได้เหมือนกันค่ะ
2.ครีมกันแดด ครีมกันแดดทาหน้าเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก แม้จะอยู่ในออฟฟิศร่มๆ แต่รังสียูวีก็ยังตามมาทำร้ายผิวเราได้ สาวๆ จึงควรมีครีมกันแดดติดโต๊ะทำงานไว้ทาเติมระหว่างวันสักหน่อย ยิ่งเป็นครีมกันแดดสำหรับผิวแพ้ง่ายยิ่งปลอดภัยต่อผิวหน้า หากใครไม่ชอบเนื้อครีมเหนียวๆ จะใช้เป็นสเปรย์กันแดดแทนก็ได้ค่ะ
3.สเปรย์น้ำแร่ ทำงานเหนื่อยๆ ผิวหน้าก็ต้องการความสดชื่นกันบ้าง สเปรย์น้ำแร่ขวดจิ๋วนี้จะช่วยสาวๆ ได้แน่นอนค่ะ เพียงแค่ฉีด สาวๆ ก็จะรู้สึกสดชื่นขึ้นกว่าเดิมเป็นกอง แถมยังให้ความชุ่มชื้นและบำรุงผิวด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ อีกด้วย
4.ลิปมัน อากาศแห้งๆ ผิวยังแตกได้ แล้วทำไมริมฝีปากของเราจะไม่แตกล่ะคะ หาลิปมันสักแท่งที่มีส่วนผสมของวิตามินอี เชียบัตเตอร์หรือขี้ผึ้งมาวางไว้บนโต๊ะทำงานสักหน่อย รับรองว่าปากของเราจะอวบอิ่มน่าจุ๊บ ไม่มีแห้งแตกเป็นขุยแน่นอน
หากสาวๆ มีไอเท็ม 4 อย่างนี้ติดโต๊ะทำงานไว้ล่ะก็ รับรองว่าผิวของสาวๆ จะสวยสุขภาพดีแบบไม่กลัวอากาศแห้งในออฟฟิศเลยล่ะ รู้แบบนี้แล้วก็รีบไปหาซื้อไอเท็มเหล่านี้มาวางไว้บนโต๊ะทำงานกันนะคะ

8
สาวๆ เคยมั้ยคะ เป็นสิวผดมาน๊านนาน พยายามรักษาสิวผดยังไงก็ไม่หาย ใช้ครีมรักษาสิวผดมาก็ไม่รู้กี่ยี่ห้อต่อกี่ยี่ห้อ สิวผดก็ไม่ยอมหายไปสักที ในกรณีนี้ สาวๆ คงต้องพิจารณาไลฟ์สไตล์ของสาวๆ ดูบ้างแล้วล่ะค่ะ ว่าสาวๆ นั้นเจอแสงแดดกับมลภาวะทุกวันหรือเปล่า แต่งหน้าเยอะไหม ล้างหน้าสะอาดพอหรือเปล่า แล้วข้าวของเครื่องใช้ที่สาวๆ นำมาสัมผัสกับหน้านั้นสาวๆ ทำความสะอาดมาดีแล้วหรือยัง เพราะวิธีลดสิวผดที่ดีที่สุดนั้นก็คือการรักษาความสะอาดนั่นเอง
สิวผดนั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่หลักๆ นั้นก็มาจากเรื่องความสะอาดนี่ล่ะค่ะ หากสาวๆ เป็นคนที่ต้องเจอกับมลภาวะบ่อยๆ เหงื่อออกมาก หากเป็นสาวๆ รักสะอาดน่ะก็ไม่เท่าไหร่ แต่สาวๆ หลายคนก็ลักไก่ ขี้เกียจเช็ดเครื่องสำอาง ขี้เกียจล้างหน้า ขี้เกียจทำความสะอาดข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวอย่างที่นอน ผ้าเช็ดตัว หรือแปรงแต่งหน้า โดยที่หารู้ไม่ว่าหากแบคทีเรียสะสมอยู่บนใบหน้าเยอะๆ แบบนี้ ปัญหาสิวผดของเราก็ไม่มีวันหายไปแน่นอน
ข้อแนะนำที่สาวๆ ควรทำคือพยายามหลีกเลี่ยงแสงแดดกับใลภาวะต่างๆ ให้ได้มากที่สุด ไม่ปล่อยให้ใบหน้าสกปรก อย่าอ้างว่าทำงานเหนื่อยจนขี้เกียจเช็ดเครื่องสำอาง เช็ดหน้าให้สะอาดด้วยคลีนซิ่งและล้างหน้าให้สะอาดด้วยโฟมล้างหน้าสูตรช่วยลดสิวทุกครั้งที่กลับถึงบ้าน หมั่นซักผ้าปูที่นอนกับผ้าเช็ดตัวเป็นประจำ ล้างแปรงแต่งหน้าบ่อยๆ นอกจากนี้ สำหรับสาวๆ ที่ไว้หน้าม้า ก็อย่าลืมสระผมเป็นประจำด้วย เพราะเส้นผมก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่นำพาสิ่งสกปรกต่างๆ มาติดอยู่บนใบหน้าของเราค่ะ
หากสาวๆ รักษาความสะอาดของใบหน้าและสิ่งของรอบตัวดีพอ บวกกับใช้ครีมรักษาสิวผดอย่างสม่ำเสมอ รับรองว่าอีกไม่นาน ใบหน้าของสาวๆ ก็จะสะอาดใส ไร้สิวผด มีแต่ผิวหน้าเนียนๆ ไว้ให้เชยชมกันไปนานๆ เลยล่ะค่า


9
   สาวๆ หลายคนที่มีปัญหาสิวเรื้อรังมาเป็นเวลานาน ก็คงจะวิ่งวุ่นหาวิธีรักษาสิวกันจนหัวหมุนแน่ๆ ไม่ว่าจะเป็นครีมรักษาสิวผด ครีมรักษาสิวอักเสบ หรือครีมรักษาสิวอุดตัน แต่ไม่ว่าจะลองมากี่ตัว รีวิวดีกี่ดาว ก็ไม่เห็นจะได้ผลกับหน้าเราสักที เริ่มท้อแท้ละนะ หันไปใช้ครีมสิวหายทันใจที่ราคาไม่แพงดีกว่า เห็นว่าได้ผลดีกว่าด้วย หยุดความคิดนั้นเดี๋ยวนี้เลยนะคะสาวๆ! รู้ว่าสาวๆ พยายามมามาก เหนื่อยมาก็มากในการหาวิธีรักษาสิว แต่จะคิดสั้นไปใช้ครีมแบบนั้นไม่ได้เด็ดขาด เพราะครีมรักษาสิวทันใจส่วนมากนั้นมีส่วนผสมของสเตียรอยด์นั่นเองค่ะ!
แล้วครีมผสมสเตียรอยด์อันตรายยังไงล่ะ? หากใช้แล้วสิวหายมันก็น่าจะดีไม่ใช่เหรอ? แม้สเตียรอยด์จะช่วยให้สิวหายได้จริง แต่ก็ได้แค่ชั่วระยะหนึ่งเท่านั้นล่ะค่ะ หากสาวๆ เปลี่ยนไปใช้ครีมอื่นที่ไม่ได้ผสมสเตียรอยด์เมื่อไหร่ รับรองว่าสิวเห่อกว่าเดิมแน่ เพราะผิวหน้าเกิดอาการติดสเตียรอยด์นั่นเอง ซ้ำร้าย หากสาวๆ ใช้สเตียรอยด์ไปนานๆ ก็มีแต่จะส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายของสาวๆ เท่านั้น เพราะสเตียรอยด์จะซึมเข้าสู่ร่างกาย ทำให้ร่างกายของสาวๆ ปนเปื้อนไปด้วยสารพิษและสามารถนำไปสู่อาการป่วยต่างๆ ได้ในอนาคตค่ะ
หากสาวๆ อยากให้สิวหายขาดแบบไม่ต้องพึ่งครีมสเตียรอยด์ที่อันตรายแบบนี้ สาวๆ ก็ต้องอดทนค่ะ ให้เวลากับผิวหน้าเราหน่อย พยายามทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อให้ระบบหมุนเวียนเลือดดี รักษาความสะอาด หมั่นดูแลผิวเป็นประจำ หาครีมรักษาสิวที่ผสมสารสกัดจากธรรมชาติ 100% ปราศจากน้ำหอม แอลกอฮอล์ และสารกันเสีย หากสิวหายเมื่อไหร่ก็อย่าลืมหาครีมลดรอยสิวหรือครีมรักษารอยสิวที่ปลอดภัยต่อผิวมาใช้ด้วย เพื่อที่ผิวหน้าของเราจะได้สะอาดใส หมดจด ปราศจากสิวรบกวนได้โดยที่ไม่ต้องพึ่งครีมสเตียรอยด์ให้เสียสุขภาพเลยค่ะ

10
หงุดหงิดไหม? เมื่อคุณเป็นคนที่วางแผนทางด้านการเงินมาอย่างดี ฝากเงินกับธนาคารที่มีอัตราดอกเบี้ยเงินฝากสูง ลงทุนกับพันธบัตร ตั๋วแลกเงิน หรือธุรกิจต่างๆ เพื่อกอบโกยผลกำไรและประหยัดเงินให้ได้มากที่สุด แต่ก็ดั๊น มาเสียท่าให้กับค่าธรรมเนียมโอนเงินง่ายๆ ซะงั้น อยากจะโอนเงินที่ก็ต้องเสียค่าธรรมเนียมเพิ่ม มันน่าเสียอารมณ์นัก

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีปัญหานี้ ต้องโอนเงินบ่อยๆ แต่ไม่อยากเสียค่าธรรมเนียม คุณก็ควรศึกษาเงื่อนไขการโอนของแต่ละธนาคารให้ดีเสียก่อน เพราะแต่ละธนาคารกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมโอนเงินไม่เหมือนกัน เราจึงต้องศึกษาให้ดีเสียก่อน จะได้ไม่ต้องมาหงุดหงิดในภายหลัง

โดยทั่วไปแล้ว หากคุณต้องการโอนเงินภายในธนาคารเดียวกัน ทางธนาคารจะไม่คิดค่าธรรมเนียม หากแต่ถ้าคุณต้องการโอนข้ามเขาตธนาคารหรือโอนไปที่บัญชีต่างธนาคาร แน่นอนว่าคุฯจะต้องได้จ๊ะเอ๋กับค่าธรรมเนียมการโอนแน่นอน ซึ่งดดยทั่วไปก็จะคิดค่าธรรมเนียมในราคา 10-35 บาท แล้วแต่เขตธนาคารหรือธนาคารปลายทางที่เราต้องการโอนเงินไปนั่นเอง

หากคุณอยากเสียค่าธรรมเนียมให้น้อยที่สุด วิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือการสมัคร internet banking กับธนาคารที่เราใช้บริการบ่อยๆ ในการสมัคร internet banking นี้ คุณจะได้สิทธิพิเศษมากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือการงดเว้นค่าธรรมเนียมโอนเงินนั่นเอง หลายๆ ธนาคารเปิดโอกาสให้ผู้ใช้บริการโอนเงินข้ามเขตได้โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมหลายครั้งต่อเดือน บางธนาคารก็ให้เราโอนเงินต่างธนาคารได้แบบฟรีค่าธรรมเนียม ทีนี้ล่ะ จะโอนเงินไปที่ไหน หรือจะจ่ายบิลอะไร คุณก็ไม่จำเป็นต้องมาหงุดหงิดกับค่าธรรมเนียมโอนเงินอีกต่อไปแล้ว โอนเงินได้ง่ายๆ เพียงแค่ปลายนิ้ว แถมยังประหยัดเงินอีกด้วย


11
คอนโดกรุงเทพใหม่ๆในปัจจุบันราคาพุ่งสูงขึ้นไปมาก ซึ่งอาจจะเนื่องมากจากราคาที่ดินกรุงเทพที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  ดังนั้นสำหรับผู้ที่กำลังมองหาคอนโดไว้พักอาศัยแล้ว การเลือกซื้อคอนโดมือสองนับว่าเป็นทางเลือกที่ดีเลยทีเดียว เนื่องจากราคาของคอนโดมือสองนั้นมักจะน้อยกว่าคอนโดใหม่ๆเป็นเท่าตัว แถมสภาพก็มีแต่ดีไปจนถึงเหมือนใหม่ตามแต่ราคา ซึ่งถ้าคุณมีงบไม่มากนัก การเลือกคอนโดติด btsมือสองสภาพดีราคาไม่แพงอาจจะตอบโจทย์และเป็นมิตรต่อกระเป๋าสตางค์ได้กว่าที่คิด
ถ้าคุณยังไม่อยากเปลี่ยนใจจากคอนโดใหม่อยู่ล่ะก็ ขอบอกว่าคอนโดมือสองที่เจ้าของซื้อไว้โดยไม่เคยมาอยู่นั้นมีอยู่ถมเถ ซึ่งยังไงก็คุ้มราคากว่าควักเงินซื้อคอนโดใหม่เอี่ยม อีกทั้งหลายๆที่ก็ยังไม่ได้ตกแต่งเอาไว้ ทำให้คุณเริ่มแต่งห้องเองได้เต็มที่ ไม่ได้เหมือนมาอยู่ห้องต่อจากใครแน่นอน หรือสำหรับคนที่ต้องการห้องที่พร้อมอยู่เลย ก็สามารถเลือกซื้อคอนโดใกล้รถไฟฟ้าที่ตกแต่งมาเสร็จเรียบร้อยได้เช่นกัน ในราคาที่ถูกกว่าคอนโดใหม่ที่ยังไม่ได้ตกแต่งอีกด้วย
อีกข้อดีของคอนโดติดรถไฟฟ้า มือสองก็คือตึกที่เก่ากว่ามักจะใช้วัสดุที่ดีกว่าและทนทานกว่าตึกที่เพิ่งสร้างใหม่ในปัจจุบัน เนื่องจากเดี๋ยวนี้ราคาวัสดุต่างๆสูงขึ้น อีกทั้งคอนโดในสมัยนี้ก็มักจะเร่งสร้างให้เสร็จในเวลาอันสั้น จึงอาจทำให้ตึกไม่แข็งแรงทนทานเท่ากับคอนโดที่สร้างก่อนหน้านี้
สุดท้ายนี้ คอนโดมือสองมีดีอีกอย่างตรงที่ว่าเปิดให้เข้าอยู่มาแล้ว จึงทำให้คุณตัดสินใจจากการบริการและการบริหารงานของนิติบุคคลได้ด้วยว่าดูแลลูกบ้านดีหรือไม่ เพื่อนบ้านของคุณเป็นอย่างไรบ้าง บรรยากาศโดยรวมของที่นี่น่าอยู่หรือไม่ เป็นต้น  ซึ่งถ้าเป็นคอนโดเปิดใหม่ล่ะก็เราไม่สามารถล่วงรู้ได้เลย



12
   การลงทุนถือว่าเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับตนเองโดยที่ไม่ต้องยุ่งยากไปทำธุรกิจใหม่ๆ ซึ่งถือว่าเป็นวิธีทำให้เงินงอกเงยที่สะดวกสบาย ต่างจากการออมเงินในธนาคารที่เด๋นยวนี้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากก็น้อยซะเหลือเกิน การลงทุนจึงเหมาะกับคนรุ่นใหม่อย่างเราๆ เป็นอย่างมาก หลายคนก็ไปกู้เงิน ลงทุนครั้งหนึ่งทีละเยอะๆ หลายคนก็ลงทุนกับตั๋วแลกเงินทีละเล็กทีละน้อยเพราะไม่อยากเจอกับความเสี่ยง การลงทุนกับกองทุนรวมก็ถือว่าเป็นอีกตัวเลือกที่ดี เพราะว่าความเสี่ยงน้อย และเราก็ไม่จำเป็นต้องบริหารเงินด้วยตัวเอง แม้นักลงทุนหน้าใหม่ก็สามารถมาร่วมลงทุนด้วยกันได้ง่ายๆ แต่หากวันใดวันหนึ่งเรารู้สึกว่าตัวเองมีความมั่นคงทางการเงินพอสมควรจนอยากเปิดกองทุนเป็นของตัวเองแล้วล่ะก็ เราก็สามารถเริ่มเปิดกองทุนได้โดยที่ไม่ต้องลำบากไปยื่นเรื่องทำนู่นทำนี่หลายขั้นตอนเลย
การจะขอเปิดกองทุนนั้น หากเป็นแต่ก่อน เราก็คงต้องเตรียมเอกสารและหลักฐานอะไรต่อมิอะไรมากมายกว่าจะได้รับอนุมัติให้เปิดกองทุนสักกองทุนหนึ่ง หากแต่ว่าสมัยนี้ ในยุคดิจิทัลที่อะไรๆ ก็ง่ายไปเสียหมดแบบนี้ ขอเพียงแค่เรามีแอพธนาคารหรือ internet banking เราก็สามารถเปิดกองทุนเป็นของตัวเองได้ภายในคลิกเดียว
วิธีการเปิดกองทุนผ่านแอพนั้นก็ไม่มีอะไรยาก เพียงแค่กดเข้าแอพธนาคารที่เราใช้บริการเป็นประจำ กดเลือกธุรกรรมการเงิน แล้วกอดไปที่เปิดบัญชีกองทุนรวม กรอกรายละเอียดเล็กน้อย เมื่อกดเสร็จสิ้น เราก็จะได้กองทุนรวมเป็นของตัวเองแล้ว ไม่ได้ต้องเสียค่าธรรมเนียมโอนเงินอะไร
การลงทุนผ่านทางกองทุนรวมนั้น นอกจากจะสะดวกสบายแล้ว ยังให้ผลกำไรอย่างงามอีกด้วย หากใครที่กำลังสนใจลงทุนอยู่ ก็อย่าลืมพิจารณาการร่วมลงทุนกับกองทุนรวมหรือการเปิดกองทุน รับรองว่าผลตอบแทนที่ได้มาจะทำให้คุณหยุดยิ้มไม่ได้เลยทีเดียว


13
ใครๆ ก็รู้ว่าครีมกันแดดนั้นจำเป็นสำหรับผิวของเรามากแค่ไหน ผิวของเราต้องได้รับการปกป้อง ไม่อย่างนั้นแล้วปัญหาผิวต่างๆ อาจจะตามมารังควานสาวๆ ไดเ หากแต่หลายครั้งที่สาวๆ ทาครีมกันแดดเรียบร้อยแล้วแต่ผิวก็ยังไหม้ ยังคล้ำเสียอยู่ดี ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ทาครีมกันแดดแล้วผิวยังคล้ำเสียอยู่ก็มีหลายประการ ลองไปดูกันดีกว่าค่ะว่ามีอะไรบ้าง
1.ไม่รอให้ครีมกันแดดซึมเข้าสู่ผิวก่อน สาวๆ หลายคนทาครีมกันแดดปุ๊บก็ออกแดดเลยทันที ซึ่งเป็นวิธีที่ผิด เพราะผิวยังดูดซึมครีมกันแดดเข้าไปได้ไม่หมดดี ทำให้ครีมกันแดดทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ วิธีที่ถูกต้องคือทาครีมกันแดดก่อนออกแดดอย่างน้อย 15 นาทีเพื่อให้ครีมซึบซาบเข้าสู่ผิว เพื่อที่ผิวจะได้รับการปกป้องอย่างเต็มที่ค่ะ
2.ทาครีมกันแดดในปริมาณที่น้อยเกินไป ครีมกันแดดทาหน้าดีๆ บางแบรนด์ก็ราคาแพงแสนแพง สาวๆ หลายคนจึงค่อยๆ ใช้อย่างประหยัด แต่หากเราใช้ครีมกันแดดน้อยเกินไป อาจทำให้ครีมกันแดดไปดูแลผิวเราได้ไม่ทั่วถึง ทางที่ดีควรทาในปริมาณที่พอเหมาะ แล้วก็อย่าลืมทาคอด้วยนะคะ เพราะคอของเราก็ต้องการการปกป้องไม่แพ้ผิวหน้าค่ะ
3.ไม่ทาครีมกันแดดเพิ่มระหว่างวัน ครีมกันแดดที่เราทาไว้ก็ต้องมีระเหยกันบ้าง เราจึงควรทาครีมกันแดดซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมงเพื่อเป็นการคงประสิทธิภาพการทำงานของครีมกันแดดนั้นไว้ อาจใช้เป็นสเปรย์กันแดดฉีดทับเพิ่ม หรือทาเป็นครีมกันแดดกันน้ำในกรณีที่สาวๆ เป็นคนเหงื่อออกมากก็ได้ รับรองว่าผิวไม่มีคล้ำเสียอย่างแน่นอน
เมื่อรู้สาเหตุของผิวคล้ำเสียแล้ว สาวๆ ก็ควรปรับพฤติกรรมการทาครีมกันแดดเสียใหม่ ใช้ครีมในปริมาณที่เหมาะสม รอให้ซึมเข้าผิวก่อนออกแดด และทาซ้ำบ่อยๆ เพียงเท่านี้ผิวของสาวๆ ก็จะไม่มีปัญหาผิวไหม้ คล้ำเสียจากรังสียูวีอีกต่อไปค่ะ

14
ลิปมันหรือลิปบาล์ม ถือว่าเป็นสกินแคร์ตัวแรกที่สาวๆ เริ่มใช้กัน ที่จัดอยู่ในหมวดสกินแคร์นั้นก็เพราะว่าบลิปมันนั้นมีสรรพคุณในการฟื้นบำรุงริมฝีปากที่แห้งแตก ช่วยดูมีสุขภาพดีขึ้น จึงถือเป็นสกินแคร์ชนิดหนึ่งนั่นเอง ไม่ว่าสาวๆ จะแต่งหน้าแบบไทยๆหรือแต่งหน้าฝรั่ง สาวๆ ก็ต้องบำรุงริมฝีปากด้วยลิปมันกันก่อนทั้งนั้น จะใช้ทั้งที สาวๆ ก็ต้องเลือกใช้ลิปมันที่ดีที่สุด ลองไปดูกันดีกว่าว่าเราควรเลือกซื้อลิปมันอย่างไรบ้าง
1.เลือกที่มีส่วนผสมของวิตามินอี ลิปมันที่ดีคือลิปมันที่ให้ความชุ่มชื้นกับริมฝีปากอย่างเพียงพอ วิตามินอีนี้แหละค่ะที่จะช่วยฟื้นบำรุงให้ริมฝีปากเราชุ่มชื้น ไม่แห้งแตก สาวๆ จึงควรมองหาลิปมันที่มีส่วนผสมของวิตามินอี หรือไม่ก็เชียบัตเตอร์หรือขี้ผึ้งที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นได้เหมือนกันค่ะ
2.พยายามหลีกเลี่ยงปิโตรเลียมเจลลี สาวๆ หลายคนต้องคุ้นชินกับสกินแคร์สารพัดประโยชน์อย่างปิโตรเลียมเจลลีกันแน่ๆ หลายครั้งที่ลิปมันก็ผสมปิโตรเลียมเจลลีด้วย ซึ่งปิโตรเลียมนี้จะไปเคลือบริมฝีปาก ช่วยให้ริมฝีปากดูมันวาว ชุ่มชื้น แต่ความชุ่มชื้นจากปิโตรเลียมนั้นก็ไม่ได้เป็นความชุ่มชื้นที่แท้จริงหรอกนะคะ ปิโตรเลียมนั้นไม่ได้มีสารบำรุงที่ให้ความชุ่มชื้นกับริมฝีปากได้จริงเลย หากสาวๆ จะซื้อลิปมันสักอัน ก็ให้เน้นเลือกที่มีส่วนผสมของน้ำมันต่างๆ แทนปิโตรเลียมเจลลีจะดีกว่าค่ะ
3.เลือกที่มี SPF ลิปมันที่ดี นอกจากบำรุงแล้วยังต้องช่วยปกป้องริมฝีปากด้วย หากสาวๆ ใช้ลิปมันที่มี SPF ด้วย ริมฝีปากของเราก็จะได้ไม่ดำคล้ำเพราะแสงแดดค่ะ
4.เลือกที่มีสีผสมด้วย สำหรับสาวๆ หน้าซีดทั้งหลายที่อยากเติมสีสันให้ใบหน้าของตัวเอง แต่ก็ขี้เกียจทาลิปสีๆ ลิปมันเปลี่ยนสีนี่แหละค่ะคือคำตอบ นอกจากสีสวยแล้วยังช่วยบำรุงด้วยนะ
หากสาวๆ เจอลิปมันที่มีคุณสมบัติตามนี้แล้ว ก็อย่ารอช้า รีบคว้าไว้เลยค่ะ ลิปมันดีๆ แบบนี้ไม่ได้หาง่ายๆ เมื่อซื้อมาแล้วก็อย่าลืมทาเป็นประจำด้วย ริมฝีปากของเราจะได้สุขภาพดีไปนานๆ ค่ะ



15
สาวๆ ที่มีปัญหาผิวหน้าเยิ้ม เมคอัพหลุดในวันเหงื่อออกมากรีบมาฟังทางนี้กันดีกว่า สาวๆ หลายคนนั้นมีปัญหาเหงื่อออกมาก แม้จะอยู่ในหน้าหนาวแต่ขยับตัวนิดหน่อยก็เหงื่ออกซะแล้ว แบบนี้แหละเมคอัพถึงไม่ค่อยจะอยู่กับหน้า วิธีแก้ปัญหานั้นก็ไม่ยากค่ะ เพียงแค่สาวๆ ลองหันมาแต่งหน้าแบบมินิมอลกัน ใช้เครื่องสำอางน้อย แต่งง่าย สบายผิว แถมยังไม่เยิ้มอีกต่างหาก
ขั้นแรกมาเริ่มเตรียมหน้าใสของสาวๆ ให้พร้อมกันก่อน ด้วยการทามอยส์เจอไรเซอร์ให้ทั่ว แม้สาวๆ จะเป็นคนหน้ามัน เหงื่อออกมาก แต่มอยส์เจอไรเซอร์ก็เป็นสิ่งจำเป็น เพราะจะช่วยให้ผิวหน้าของเราดูโกลวเป็นธรรมชาติ จากนั้นอย่าลืมฉีดสเปรย์กันแดด spf สูงๆ เป็นเกระป้องกันผิวสวยจากแสงแดด แถมยังเบาสบายหน้ากว่าครีมกันแดดทั่วไปอีกด้วย
ลุคมินิมอลนี้ไม่ต้องการเมคอัพเยอะ สาวๆ แค่ใช้คอนซีลเลอร์ที่ติดทนและกันน้ำได้ปกปิดร่องรอยต่างๆ ให้ทั่ว จากนั้นก็ปัดแป้งฝุ่นเบาๆ ให้ทั่วเป็นการเซ็ตหน้า เขียนคิ้วเบาๆ ด้วยดินสอเขียนคิ้วกันน้ำ อย่ามือหนักเกินไปไม่งั้นลุคมินิมอลของเราจะกลายเป็นลุคจัดเต็มได้ ใช้ครีมบลัชสีเข้ากับผิวทาแก้มเบาๆ ติดทนนานกว่าปัดบลัชผงธรรมดาแน่นอน แตะๆ ครีมบลัชมาแต้มริมฝีปากเล็กน้อย ทาทับด้วยลิปบาล์ม แล้วปิดท้ายด้วยแต้มไฮไลท์ชนิดครีมลงบนโหนกแก้ม ใต้คิ้ว ให้ผิวหน้าโกลว เพียงเท่านี้ลุคมินิมอลของเราก็เป็นอันเสร็จ หน้าสวยใส ไม่มีมันเยิ้มแม้เหงื่อออกมากแน่นอน เพราะว่าใช้เครื่องสำอางน้อยยังไงล่ะ!
อย่างไรก็ตาม แม้สาวๆ จะใช้เครื่องสำอางน้อยแค่ไหน หรือไม่ได้ใช้เลย สาวๆ ก็อย่าลืมใช้คลีนซิ่งเช็ดหน้าให้เกลี้ยง ล้างหน้าให้สะอาดหมดจด เพื่อที่ผิวจะได้ไม่อุดตัน หน้าสวยใสไร้สิวไปนานๆ นั่นเองค่ะ

16
ชาเขียว จัดว่าเป็นเครื่องดื่มยอดฮิตของใครหลายๆ คน ด้วยรสชาติที่กลมกล่อม หอมอร่อยกำลังดี พร้อมทั้งคุณประโยชน์มากมายที่มีต่อสุขภาพ จึงไม่แปลกที่ชาเขียวจะกลายเป็นอาหารแนะนำสำหรับคนรักสุขภาพ แต่รู้หรือไม่คะว่า นอกจากคุณค่าทางอาหารที่จะช่วยให้คุณหนุ่มๆ สาวๆ หุ่นฟิตแอนด์เฟิร์มแล้ว ชาเขียนยังมีสรรพคุณในการรักษาสิว ช่วยให้ผิวหน้าของคุณสวยใสได้แบบไม่ต้องพึ่งยาหมอจำนวนมากอีกด้วย
ชาเขียวนั้นอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือสารจำพวกฟลาโวนอยด์ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ร่างกายควรได้รับ นอกจากนี้ยังมีสารแทนนินที่ช่วยให้ผิวดูเปล่งปลั่งสดใส ซึ่งทั้งสารจำพวกฟลาโวนอยด์และสารแทนนินนี้เองที่จะช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย ลดอาการบวมแดงของสิวอักเสบ และลดรอยแดงจากสิวนั่นเอง
วิธีลดสิวด้วยชาเขียวนั้นสามารถทำได้หลายวิธี เพียงแค่เรามีชาเขียวแท้ๆ ติดบ้านไว้สักกล่องก็สบายใจได้แล้ว สูตรบำรุงผิวหน้าด้วยชาเขียวนั้นสามารถหาได้ทั่วไปตามอินเทอร์เน็ต แต่สูตรหนึ่งที่ทำได้ง่ายและใช้งานได้สะดวกมากๆ ก็คือสูตรสเปรย์น้ำแร่ชาเขียวโฮมเมดนั่นเอง วิธีการทำก็ไม่ยาก แค่ต้มชาเขียวในน้ำเดือดประมาณ 5 นาที ทิ้งไว้ให้เย็นลง เทน้ำชาเขียวต้มที่เย็นแล้วลงในขวดสเปรย์ที่เตรียมไว้ พกไว้ฉีดลงบนใบหน้าเมื่อไหร่ก้ได้ ช่วยให้ผิวหน้าชุ่มชื้น ลดอาการอักเสบของสิว และยังช่วยลดแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้อีกด้วย
หรือถ้าหากใครที่ไม่สะดวกทำผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจากชาเขียวด้วยตัวเอง ก็สามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ผสมสารสกัดจากชาเขียวได้ทั่วไป เพียงหาดูแบบที่ไม่ผสมแอลกอฮอล์และน้ำหอม ผิวจะได้ไม่เกิดอาการแพ้จนเป็นสิวอีก เห็นว่าชาเขียวประโยชน์เยอะขนาดนี้แล้วก็อย่ารอช้า รีบไปซื้อมาติดบ้านไว้ จะกินก็ดี จะบำรุงผิวก็ได้ คุ้มยิ่งกว่าคุ้มสุดๆ เลยล่ะ


17
ช่วงระหว่างการตั้งครรภ์เป็นช่วงที่คุณแม่จำเป็นต้องดูแลตัวเองมากขึ้นอีกเป็นเท่าตัว เพราะตอนนี้ไม่ใช่แค่คุณแม่ตัวคนเดียว แต่ยังมีชีวิตน้อยๆ อีกหนึ่งชีวิตที่คุรแม่จำเป็นต้องแบ่งพลังกายพลังใจไปดุแลด้วย แต่ต่อให้ดูแลดีขนาดไหน หากคุณแม่ไม่ระมัดระวังตัวให้มากพอ ก็อาจจะเจอกับภัยเงียบอย่างโรคแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ได้ ภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ก็เป็นอีกหนึ่งภัยที่อาจทำอันตรายกับทั้งคุณแม่คุณลุกจนอาจถึงแก่ชีวิตได้
เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ ระดับน้ำตาลในเลือดของคุณแม่จะสูงขึ้นมากกว่าปกติ เนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนซึ่งถือว่าเป็นเรื่องธรรมดามากระหว่างการตั้งครรภ์ ในช่วงนี้ รกของคุณแม่จะสร้างฮอร์โมนที่ต่อต้านฮอร์โมนอินซูลินที่ปกติแล้วจะคอยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด หากคุณแม่ปล่อยให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงมากเกินไป อาจก่อให้เกิดเป็นเบาหวานและส่งผลกระทบต่อทั้งร่างกายของคุณแม่ลูกน้อยได้ เช่น ปัญหาทางเดินหายใจ ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ ส่งผลให้การทำงานของสมองของลุกน้อยผิดปกติ ทารกตัวใหญ่กว่าปกติ ทำให้คลอดยาก เป้นอันตรายต่อร่างกายของคุณแม่ค่ะ
การป้องกันเบาหวานขณะตั้งครรภ์นั้นสามารถทำได้โดยการดูแลอย่างใกล้ชิด คุณแม่ควรไปหาหมอเป็นประจำเพื่อวัดระดับน้ำตาลในเลือดและรับคำแนะนำการดูแลตัวเองต่างๆ ระหว่างการตั้งครรภ์ ทั้งนี้ คุณแม่ก็ควรดูแลระมัดระวังเรื่องอาหารการกินของตัวเองด้วย ควรทานแต่อาหารที่มีประโยชน์ งดอาหารหวานอาหารมันที่มีแต่แป้งและน้ำตาล ทานผักผลไม้ที่ปริมาณน้ำตาลไม่สูงจนเกินไป จะได้ไม่ต้องเสี่ยงกับเบาหวานขณะตั้งครรภ์ค่ะ
หากคุณแม่ดูแลตัวเองอย่างดี ไปหาคุณหมอเป็นประจำ โรคแทรกซ้อนต่างๆ ก็ไม่อาจมาทำอันตรายต่อคุณแม่และลูกน้อยได้ เมื่อครบเก้าเดือนก็เตรียมของก่อนคลอดให้พร้อม แล้วเตรียมตัวต้อนรับลูกน้อยที่สุขภาพดีแข็งแรงสมบูรณ์ได้เลย


18
ความงาม | Beauty / วิธีทาลิปให้สวยไม่ตกร่อง
« เมื่อ: ธันวาคม 23, 2018, 06:20:11 AM »
ถึงแม้เลือกลิปสีสวยเข้ากับหน้าได้แล้วแต่ถ้าลิปของสาวๆหลุดติดขอบแก้วน้ำ หลอด หรือหลุดหายไปเหลือแต่ขอบก็ดูไม่น่ารักเอาซะเลย แค่รู้วิธีทาให้ถูกต้อง ก็มีริมฝีปากเป๊ะได้ตลอดวันแล้วค่าวิธีทำให้ลิปสติกติดทนเริ่มจากเตรียมริมฝีปากให้อยู่ในสภาพดีที่สุดด้วยการทาลิปบาล์มและสครับปาก แล้วจึงใช้แปรงทาลิปให้เนียนเสมอกัน จากนั้นใช้แป้งพัฟคุมมันที่โปร่งแสงทาเบาๆทับบนลิปสติก ต้องเป็นแบบโปร่งแสงเท่านั้นนะคะ จะทำให้ลิปติดทนแถมแมตต์อีกด้วยค่ะ
อีกวิธีทาลิปให้สวยเป๊ะจะลืมที่เขียนขอบปากไปไม่ได้เลย เพราะดินสอเขียนขอบปากสามารถใช้วาดรูปปากของเราให้ดูสวยได้รูปมากขึ้น แบบที่ใครก็ดูไม่ออกว่าไปทำอะไรมา นอกจากนี้การทาดินสอเขียนขอบปากให้ทั่วริมฝีปากก่อนใช้ลิปจิ้มจุ่มทาทับก็จะทำให้ลิปติดทนนานไม่หลุดลอกง่ายอีกด้วย
นอกจกาการทาลิปให้สวยเป๊ะไม่ตกร่องแล้ว การเลือกสีลิปสติกให้เข้ากับผิวและอันเดอร์โทนผิวก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะจะช่วยขับใบหน้าของเราให้สวยขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ โดยสีลิปที่สีลิปที่เหมาะกับคนผิวสองสีจะเป็นโทนสีน้ำตาลค่ะ เช่นน้ำตาลอมแดง ชมพูตุ่นๆ หรือลิปสติกสีนู้ดเข้ม หรือลิปสีแดงเชอรรีก็ใช้ได้เช่นกัน



19
การเลือกใช้ลิปสติกสียอดฮิตตามเทรนด์อาจทำให้เราแต่งหน้าได้ดูทันสมัยก็จริง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าสีลิปนั้นๆจะเข้ากับสีผิวของเราและช่วยขับใบหน้าให้ดูสว่างสดใสได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสาวผิวแทนไปจนถึงผิวคล้ำที่มักเจอปัญหาสีลิปไม่่เข้ากับผิว วิธีเลือกลิปสติกให้เข้ากับสีผิวต่อไปนี้จะช่วยให้สาวๆผิวแทนเจอสีลิปที่ใช่ได้ค่า

สิ่งที่ทำให้สีลิปนั้นไม่เข้ากับผิวนั้นไม่ได้เป็นเพราะว่าเป็นสีที่เหมาะกับผิวขาวหรอกค่ะ แต่จริงๆแล้วนั้นสาเหตุมาจากอันเดอร์โทนต่างหาก พูดง่ายๆก็คือสีลิปที่เหมาะกับคนผิวสองสีโทนเย็นก็จะเป็นเฉดสีโทนเย็น ส่วนสีลิปที่เหมาะกับคนผิวสองสีโทนร้อนก็คือสีโทนร้อน

ผิวสองสีโทนเย็นนั้นจะเหมาะมากกับลิปสติกสีแดงโทนเย็น สีน้ำตาลกาแฟ หรือสีเปลือกมังคุด แต่ถ้าต้องการให้สีลิปสติกโดดเด่นยิ่งขึ้นก็สามารถเลือกใช้โทนร้อนอย่างสีส้มและแดงอมส้มได้เช่นกัน

สำหรับสาวผิวสองสีโทนร้อน สีโทนร้อนอย่างแดงอมส้ม ลิปสติกสีนู้ดโทนส้ม หรือสีน้ำตาลช็อกโกแลตจะเข้ากับผิวได้เป็นอย่างดี แต่สีโทนเย็นอย่างชมพูอมม่วงก็จะช่วยให้ใบหน้าดูมีสีสันขึ้นมาได้เช่นกัน

อย่างไรก็ดี ถ้าสาวๆไม่แน่ใจในอันเดอร์โทนผิวของตัวเอง สีไวน์แดงก็เป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมเพราะเข้ากับผิวแทนได้ทุุกอันเดอร์โทน อ่านจบแล้วสาวๆอย่าลืมนำไปใช้เมื่อเลือกซื้อลิปสติกแท่งใหม่กันด้วยนะคะ คราวนี้รับรองว่าได้สีที่เข้ากับผิวแน่นอนค่า นอกจากนี้การเตรียมริมฝีปากให้เนียนนุ่มชุ่มชื้นด้วยการทาลิปบาล์มก่อนจะทาลิปเนื้อแมทอย่างลิปจิ้มจุ่มก็จะทำให้ทาลิปสติกได้สวยขึ้นอีกด้วยค่ะ

20
การตั้งครรภ์ ถือเป็นช่วงเวลาสุดพิเศษที่บรรดาคุณแม่หลายๆ คนต่างก็ตั้งหน้าตั้งตารอที่จะได้สัมผัสกัน แต่กระประคับประคองดูแลอีกหนึ่งชีวิตน้อยๆ ในครรภ์นั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งมีอีกคนหนึ่งในท้อง ร่างกายของคุณแม่ก็ยิ่งเหนื่อยล้ามาก คุณแม่จึงจำเป็นที่จะต้องดูแลสุขภาพตัวเองให้แข็งแรงอยู่ตลอดเวลา เพื่อที่ลูกน้อยจะได้แข็งแรงตามไปด้วย โดยที่คุณแม่ควรดูแลตัวเองด้วยการปฏิบัติตามวิธีดังต่อไปนี้ค่ะ


   
ทานอาหารที่มีประโยชน์ ในช่วงระหว่างการตั้งครรภ์ อาหารการกินนั้นถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด สำหรับคุณแม่มือใหม่ทั้งหลาย การทานอาหารประเภทโปรตีนอย่างเนื้อสัตว์ นม ไข่ และถั่ว จะช่วยให้ร่างกายของเรามีพลังงานไปช่วยเสริมสร้างพัฒนาการของลูกน้อยได้ และตัวคุณแม่เองก็จะมีแรงไปสู้กับอาการที่มากับการตั้งครรภ์ต่างๆ มากขึ้นด้วย โปรดระวังอาหารที่มันเกินไปหรือหวานจนเกินไป เพราะอาจทำให้ทั้งคุณแม่และทารกเสี่ยงกับเบาหวานขณะตั้งครรภ์และโรคอื่นๆ ได้อีกค่ะ


   

   
พักผ่อนเยอะๆ กระบวนการเติบโตของลูกน้อยนั้น จัดว่าดูดพลังงานของคนเป็นแม่อย่างมาก เพราะฉะนั้น นอกจากคุณแม่จะต้องทานอาหารที่ให้พลังงานเยอะๆ แล้ว การนอนหลับพักผ่อนก็สำคัญไม่แพ้กัน ไม่ต้องไปกังวลว่าจะนอนมากไป เพราะนอนมากก็ยังดีกว่านอนน้อยค่ะสำหรับช่วงนี้


   

   
ออกกำลังกายบ้าง มีความเชื่อผิดๆ ที่หลายคนเชื่อกันว่าคนท้องไม่ควรออกกำลังกาย เพราะอาจส่งผลเสียต่อลูกในท้องได้ หากแต่ว่าเป็นความเชื่อที่ผิด การออกกำลังกายนั้นจะทำให้คุณแม่มีสุขภาพแข็งแรง สามาถต่อการกับอากาต่างๆ และแบกรับน้ำหนักที่มากับลูกในท้องได้ดียิ่งขึ้น พยายามออกกำลังกายเบาๆ อย่างเดินเล่น โยคะ หรือว่ายน้ำเบาๆ อย่าหักโหม เพียงเท่านี้ทั้งคุณแม่ทั้งลูกน้อยก็จะแข็งแรงไปพร้อมๆ กันแล้วล่ะค่ะ


   
หากคุณแม่ดูแลสขภาพตัวเองอย่างดีตลอดจนครบเก้าเดือน รับรองว่าลูกน้อยจะออกมาสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ดี พัฒนาการสมวัยแน่นอน เตรียมของก่อนคลอดให้พร้อม เตรียมร่างกายให้เเข็งแรง แล้วลูกน้อยจะออกมาดูโลกได้แบบไม่มีอุปสรรคใดๆ ขวางกั้นค่ะ


21
เคยมั้ยคะสาวๆ ลงทุนซื้อลิปจิ้มจุ่มมา แต่เนื้อดันแมทไม่สะใจซะงั้น กินอะไรแบบเดียวก็หลุด ดูดน้ำแปปเดียวก็หายหมดแล้ว แถมยังชอบไหลเป็นคราบๆ ตรงขอบปากอีก จะให้ไปเสียเงินซื้อใหม่อีกก็เสียดาย ไม่ได้กระเป๋าตุงขนาดนั้นสักหน่อย แต่คนมันอยากได้ลิปสติกเนื้อแมทอ่ะ! หรือจะโยนลิปจิ้มจุ่มที่เพิ่งซื้อมาทิ้งไปเลยดีๆ เดี๋ยวๆๆๆ อย่าเพิ่งใจร้อนทำแบบนั้นเลยค่ะ เพราะวันนี้เรามีวิธีเปลี่ยนลิปจิ้มจุ่มที่เหลวเป๋วให้กลายเป็นลิปแมทสีแซ่บสะใจ ทาทั้งวันก็ไม่หลุด ลองไปดูกันดีกว่าว่าต้องทำยังไงบ้าง
ก่อนอื่นสาวๆ ต้องอย่าลืมทาลิปบาล์มบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื้นก่อน เพราะเวลาเราทาลิปแมทนั้น เนื้อลิปจะแห้งผากมากๆ จนอาจลอกออกมาเป็นผงๆ ได้ ดังนั้นให้สาวๆ ทาลิปบาล์มเป็นประจำไม่เว้นแต่ตอนที่ไม่ได้ทาลิปด้วยนะคะ มาถึงที่ขั้นตอนการทาลิปกันบ้าง ขั้นแรกเลยก็ให้สาวๆ ปาดลิปจิ้มจุ่มตัวการที่เราไม่ปลื้มออกมา เมื่อตัวที่ทาปาดตรงของแท่งให้เนื้อลิปส่วนเกินไหลลับลงขวดไปก่อน เวลาทาเนื้อลิปจะได้ไม่เยิ้มมาก จากนั้นก็ทาให้ทั่วทั้งริมฝีปาก เมื่อทาเสร็จแล้วให้สาวๆ นำทิชชู่แผ่นบางๆ มาผิดไว้ตรงปาก แล้วใช้แปรงคาบูกิหรือแปรงคอนทัวร์ที่ขนแปรงแน่น ปัดแป้งฝุ่นให้ทั่วริมฝีปากที่มีทิชชู่ปิดอยู่ ตัวแป้งจะซึมผ่านทิชชู่ไป ช่วยให้ลิปจิ้มจุ่มของเรากลายเป็นลิปที่เนื้อแมทกำลังดี ติดทนนาน ดูสวยไม่แพ้ลิปจิ้มจุ่มแมทราคาแพงๆ เลย ยิ่งใช้วิธีนี้ลิปสติกสีนู้ดยิ่งสวยค่ะ คอนเฟิร์มเลย
รู้แบบนี้แล้ว สาวๆ ก็อย่าเพิ่งโยนลิปจิ้มจุ่มที่เพิ่งซื้อมาทิ้ง ลองใช้วิธีนี้กันดู รับรองว่าถูกใจ ไม่ต้องเสียตังไปซื้อลิปแมทใหม่อีกแน่นอน


22
สาวๆ ที่เพิ่งไปเปลี่ยนสีผมมาใหม่หลายคนก็คงจะกำลังตื่นเต้นกับลุคใหม่ของตัวเองกันอยู่ แหม่ นี่ขนาดยังไม่ได้แต่งหน้านะเนี่ย ถ้าแต่งหน้าแล้วจะสวยขนาดไหน ไหนลองแต่งดูซิ ว้ายๆๆๆ ไม่ได้นะคะสาวๆ ผมเปลี่ยนเป็นสีนั้นแล้ว ห้ามเขียนคิ้วสีนี้เด็ดขาด! เฮ้อ ปวดหัวกับสาวๆ หลายคนมากเวลาที่เปลี่ยนสีผมมาแล้วดันงกไม่ยอมเปลี่ยนสีคิ้วตามด้วยเนี่ย สีผมเปลี่ยน สีคิ้วก็ต้องเปลี่ยนนะคะสาวๆ จะได้ไม่ดูโป๊ะ ดูประหลาด ลองไปดูกันดีกว่าว่าผมสีนี้แล้วเขียนคิ้วสีไหนดี
ไม่ว่าสาวๆ จะใช้อุปกรณ์แบบไหนเขียนคิ้ว จะดินสอเขียนคิ้ว ที่เขียนคิ้วแบบฝุ่น หรือเจลเขียนคิ้ว การเลือกสีให้เข้ากับผมนั้นก็ถือเป็นเรื่องสำคัญมากๆ สาวผมดำก็พยายามเลือกที่เขียนคิ้วสีดำที่ดินโทนเทาอ่อนๆ มาหน่อย เวลาเขียนจะได้ไม่ดูเข้มเกินไปจนเป็นงิ้ว สาวๆ ที่มีผมสีน้ำตาลก็ให้เลือกที่เขียนคิ้วสีน้ำตาลที่เป็นโทนเดียวกับผม ไม่ว่าจะน้ำตาลเข้ม น้ำตาลหม่น สีสีน้ำตาลแดง ในขณะที่สาวๆ ผมทองก็ให้พยายามเลือกที่เขียวคิ้วที่ออกสีทองหม่นๆ หน่อย จะได้ดูเข้ากันกับผมค่ะ
      วิธีเขียนคิ้วที่ดีที่สุดคือการเขียนให้ออกมาดูเป็นธรรมชาติ อย่าให้เป็นปลิงจนเกินไป  หากสาวๆ คนไหนไม่มีงบไปซื้อที่เขียนคิ้วใหม่จริงๆ ล่ะก็ ก็สามารถหาอายแชโดว์เนื้อแมทที่สีเหมาะกับผมเรามาใช้ได้ หรือจะใช้อายไลเนอร์สีน้ำตาลมาเขียนคิ้วก็ให้ผลลัพธ์ดีไม่แพ้กันค่ะ
รู้แบบนี้แล้ว คราวหน้าเวลาเปลี่ยนสีผมก็อย่าลืมเปลี่ยนสีคิ้วให้เข้ากันด้วยนะคะ รับรองว่าเมคอัพลุคที่แต่งออกมาจะสวยเฉี่ยว ดูเข้ากั๊นเข้ากันกับสีผมใหม่ของเราจนใครๆ ก็ต้องเอ่ยปากชมอย่างแน่นอน

23
      ในกรุเครื่องสำอางของสาวๆ ทุกคน แน่นอนว่าต้องมีลิปสติกอยู่ด้วยกันหลายแบบ หลายเฉดหลายโทน เช่นลิปแมทสีแซ่บหรือลิปทินท์สีระเรื่อ แต่สาวๆ ผิวขาวที่ปกติแล้วใช้ลิปสติกได้หลายเฉดก็อาจจะต้องเผชิญปัญหาในการเลือกลิปสติกสีนู้ดกันบ้าง เพราะหากเลือกผิดสาวๆ อาจกลายเป็นว่าหน้าดูป่วยจนคนหามไปโรงพยาบาลเลยก็ได้ การเลือกลิปสติกเข้ากับโทนผิวเราจึงเป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้เรื่องอื่นๆ เลยทีเดียว
วิธีเลือกลิปสติกสีนู้ดของสาวผิวขาวนั้นไม่ยากค่ะ เพราะสาวผิวขาวสามารถทาลิปโทนสีชมพูหรือเบจก็ได้สบายๆ อยู่แล้ว เพียงแต่ให้เลือกเฉดที่เข้มกว่าสีผิวจริงนิดหน่อย ย้ำว่านิดหน่อยพอ ไม่งั้นเวลาทาสาวๆ อาจดูเหมือนคนป่วย และอาจเห็นร่องปากชัดยิ่งขึ้น ทางที่ดีสาวๆ ควรเลือกโทนสีที่มีความตุ่นหน่อยๆ ปากของเราจะได้มีสีสวยเป็นธรรมชาติค่ะ
นอกจากการเลือกสีลิปสติกแล้ว การบำรุงริมฝีปากก็เป็นเรื่องที่สำคัญ หากปากเราแห้ง แตก เป็นขุย ทาลิปสีอะไรก็ไม่สวยแน่นอน สาวๆ ควรดูแลด้วยการสครับปาก ทาลิปมาส์ก และทาลิปมันเป็นประจำทุกวัน โดยเฉพาะลิปมันที่มีส่วนผสมของวิตามินอีและ SPF รับรองว่าริมฝีปากของเราจะอวบอิ่ม ดูสวย ไม่มีตกร่อง ทาลิปสติกเนื้อแมทสีนู้ดได้สวย แต่งหน้า ฝรั่งลุคไหนก็ผ่านฉลุยแน่นอน

24
เวลาแต่งหน้า รองพื้นและแป้งจัดว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สาวๆ จะขาดไปไม่ได้ ว้าว ลงรองพื้นแล้วผิวเนียนเชียวต่อไปก็ต้องเซ็ทหน้าด้วยแป้ง แต่อ้าว ทำไมพอลงแป้งไปแล้วผิวหน้าถึงได้กลายเป็นชั้นปูนหนาแบบนี้ล่ะ จะแก้ก็ไม่ทันแล้ว พอออกไปจากบ้านปุ๊บ แป้งที่โบกไว้หนาเกินก็เป็นคราบอีก ฮือ จะทำยังไงดีล่ะเนี่ย!? ไม่ยากค่ะ เพียงแค่สาวๆ ต้องรู้จักวิธีการลงแป้งให้ถูกต้องและเลือกแป้งให้เหมาะสมกับความต้องการของเราเท่านั้นเอง หากสาวๆ อยากรู้วิธีการลงแป้งให้ดูเนียนเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นคราบ ไม่ดูหนา ก็ตามเรามาเลยค่ะ!
ใช้แป้งฝุ่นแทนแป้งอัดแข็ง สาวๆ หลายคนชอบให้ใบหน้าเนียน ไร้จุดบกพร่องใดๆ จึงไม่แปลกที่สาวๆ จะขุดบรรดาแป้งพัฟ ปกปิดดีที่สุดออกมาใช้กัน แต่ว่าสาวๆ รู้มั้ยคะว่าแป้งพัฟเนื้อนาๆ นี่แหละคือตัวการตัวดีที่ทำให้ผิวหน้าของเราดูหนา ยิ่งสาวๆ เป็นคนหน้ามันด้วยแล้วล่ะก็ มีโอกาสสูงที่น้ำมันบนผิวหน้าของเราจะมาผสมกันมั่วกับแป้ง ทำให้ผิวเกิดการอุดตันเป็นสิว หากสาวๆ ต้องการให้ผิวดูเนียนเป็นธรรมชาติ แนะนำว่าให้ใช้แป้งฝุ่นเนื้อละเอียดลงแทนแป้งพัฟเนื้อหนาแทนจะดีกว่าค่ะ
ใช้แปรงปัดแทนการใช้พัฟตบ สาวๆ หลายคนเห็นในตลับแป้งมีพัฟแถบมาให้ ก็ไม่คิดอะไร ใช้พัฟตบๆ ไปเลย การลงแป้งพัฟนั้นสามารถช่วยปกปิดผิวได้อย่างดีก็จริง  หากแต่ถ้าสาวๆ ตบไม่ระวัง หน้าของเราก็อาจดูเป็นงิ้วได้ การใช้แปรงปัดแป้งจะช่วยให้เราทาแป้งได้ในปริมาณที่บางเบามากกว่า สาวๆ ที่ประสบปัญหาผิวมันก็สามารถใช้แปรงปัดแป้งพัฟคุมมันได้ แม้เป็นแป้งพักก็รับรองว่าสาวๆ จะได้แป้งมาในปริมาณที่พอเหมาะ หน้าไม่โบ๊ะ ไม่เป็นคราบแน่นอน
ใช้สเปรย์น้ำแร่ช่วย สเปรย์น้ำแร่ถือเป็นไอเท็มที่กำลังได้รับความนิยมมาก เพราะช่วยให้ผิวหน้าของเราสดชื่นขึ้น ใช้ก็ง่าย แต่สาวๆ รู้มั้ยว่าเราสามารถนำสเปรย์น้ำแร่มาช่วยในการทาแป้งได้ด้วย หลังจากที่สาวๆ ทาแป้งเสร็จให้สาวๆ ใช้สเปรย์น้ำแร่ฉีดหน้าสักทีสองที ละอองสเปรย์ย้ำแร่จะช่วยเซ็ทเครื่องสำอางของเรา ในขณะเดียวกันก็ช่วยให้เนื้อแป้งที่สาวๆ ทาดูเนียนไปกับผิวมากขึ้น นำความโกลวออกมา ทำให้ผิวของเราดูเนียนเป็นธรรมชาติขึ้นนั่นเอง
หากสาวๆ เป็นคนที่ชอบปกปิดผิว แต่ในขณะเดียวกันก็อยากให้ผิวดูเนียนเป็นธรรมชาติ ก็อย่ากลัวที่จะซื้อแป้งหลายๆ ประเภทเก็บไว้ใช้ตามสถานการณ์ พร้อมทั้งตัวช่วยอย่างแปรงปัดแป้งหรือสเปรย์น้ำแร่ด้วย เครื่องสำอางถูกและดีเดี๋ยวนี้ก็มีมากมาย รับรองว่าซื้อแค่นี้สาวๆ ไม่กรอบแน่นอน แถมยังช่วยให้สาวๆ แต่งหน้าได้เนียนสวยตามที่ใจต้องการอีกด้วย

หน้า: [1]