ThaiFranchiseCenter Webboard

สุขภาพ ความสวยความงาม | Health & Beauty => แม่และเด็ก | Child => ข้อความที่เริ่มโดย: อัญณา ที่ พฤษภาคม 05, 2019, 06:02:03 AM

หัวข้อ: อะไรบ้างที่มีผลต่อพัฒนาการเด็ก
เริ่มหัวข้อโดย: อัญณา ที่ พฤษภาคม 05, 2019, 06:02:03 AM
ไม่ว่าคุณพ่อคุณแม่คนไหนก็ย่อมอยากให้ลูกน้อยของคุณมีพัฒนาการที่ดี เจริญเติบโตสมวัย สุขภาพแข็งแรงแต่ปัจจัยอะไรที่มีผลต่อการพัฒนาการเด็กบ้าง วันนี้เรามาเรียนรู้ไปพร้อมกันค่ะ
การดูแลสุขภาพของทารกในวัยแรกเกิดเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เนื่องจากเป็นวัยที่เด็กมีการเจริญเติบโตเร็วและอวัยวะทุกส่วน รวมถึงสมองมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
1.   ผู้ปกครองควรให้ความสำคัญกับการเติบโตของเด็กโดยวัดลักษณะทางกายภาพ เช่น ความสูง น้ำหนัก และรูปร่าง เพื่อจะได้ทราบถึงการเจริญเติบโตและนำไปเปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยของเด็กตามมาตรฐาน
ได้
2.   ควรให้เด็กได้มีการพัฒนาการด้วยตัวเอง ตามธรรมชาติ ไม่บังคับหรือใช้สื่อเทคโนโลยี เช่น ทีวี, โทรศัพท์มือถือมารบกวนพัฒนาการเด็ก (http://www.tpa.or.th/writer/read_this_book_topic.php?bookID=3976&read=true&count=true)
3.   ให้เด็กกินนมแม่อย่างเดียวตลอดช่วง 6 เดือน ประโยชน์นมแม่ (http://www.tpa.or.th/writer/read_this_book_topic.php?bookID=4007&read=true&count=true)มีมากมาย โดยเฉพาะสารอาหารหลักที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต เช่น โปรตีน, ไขมันดี และวิตามิน รวมถึงสารสำคัญ เช่น MFGM ซึ่ง mfgm คือ (https://www.momandbabythailand.com/community/forum/topic/?question_id=277)เนื้อเยื่อที่ห่อหุ้มไขมันในนม ซึ่งมีส่วนช่วยเสริมสร้างเซลล์สมองและมีพัฒนาการทางสมองที่ดีขึ้น และพบในน้ำนมแม่
4.   ระหว่างการให้นมลูก อาจมีการพูดคุยกับลูก เพราะเป็นการกระตุ้นประสาทสัมผัสและส่งเสริมพัฒนาการทั้งด้านสมองและอารมณ์
5.   เมื่อเด็กอายุ 6 เดือนเป็นต้นไปอาจให้เด็กกินแม่ควบคู่ไปกับอาหารอ่อนที่เหมาะสมตามวัยนั้นๆ
6.   นำลูกไปตรวจสุขภาพและรับวัคซีนอย่างต่อเนื่องตามวัย
7.   ทำกิจกรรมกับลูกบ่อยๆ เช่น เล่น, พูดคุย, เล่านิทาน, ร้องเพลงให้เด็กฟัง
8.   สร้างความผูกพันและเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่เด็ก
9.   ให้ความอบอุ่นแก่ลูกโดยการโอบกอด เพราะเป็นการสร้างพื้นฐานทางอารมณ์ที่ดีให้แก่ลูก
10.   สร้างบรรยากาศดีๆให้เด็ก ไม่มีภาวะเครียด, การทะเลาะเบาะแว้งให้ลูกเห็น
11.   ดูแลสุขอนามัยของบ้านและคนที่เข้ามาเล่นกับลูก เพราะในวัยทารก ลูกยังมีภูมิคุ้มกันที่ต่ำ จึงอาจทำให้อ่อนไหวต่อการรับเชื้อ และอาจป่วยได้
12.   ใช้กรุ๊งกริ๊งหรือของเล่นที่มีเสียง เขย่าตรงหน้าลูก และขยับมาด้านซ้ายและด้านขวา เพื่อให้เด็กหันตาม ซึ่งเป็นการส่งเสริมพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหว
13.   เรียกชื่อลูกให้ลูกมีอาหารเคลื่อนไหวหรือสะดุ้ง และให้ยิ้มพร้อมกับสัมผัสตัวลูกเพื่อให้ลูกเข้าใจชื่อและเป็นการพัฒนาด้านภาษาอีกด้วย และหากลูกโตขึ้นถึง 5-6เดือน อาจให้ลูกพูดตามคำง่ายๆ เช่น วา..วา , มา..มา
หากคุณพ่อคุณแม่อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ทำให้ทราบได้เลยว่าการดูแลเด็กทารกให้เติบโตและมีพัฒนาการที่ดีนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เป็นเรื่องที่ไม่ยากเกินไป เพียงแต่เราต้องมีการวางแผนเตรียมพร้อมดูแลลูกในวัยต่างๆ หาและกิจกรรมให้เหมาะสมกับเขาในวัยนั้นๆ นอกจากนี้คุณพ่อคุณแม่อาจมีปฏิทินจดบันทึกพัฒนาการต่างๆของลูกในแต่ละกิจกรรม เช่น ลูกคลานได้ครั้งแรก, ลูกพูดว่าแม่ครั้งแรก, ลูกฟันงอกซี่แรก และอื่นๆ นอกจากจะได้ติดตามพัฒนาการของลูกและตรวจสอบว่าลูกโตเป็นไปตามมาตรฐานที่เหมาะสมแล้วหรือไม่  และยังเป็นการสร้างความทรงจำดีๆให้แก่ครอบครัวด้วย และเมื่อลูกโตขึ้นและเรามองย้อนกลับมา ก็จะรู้ได้เลยว่าคุ้มแล้วที่เราดูแลเขาได้ดีขนาดนี้