ThaiFranchiseCenter Webboard

สุขภาพ ความสวยความงาม | Health & Beauty => แม่และเด็ก | Child => ข้อความที่เริ่มโดย: AllYouShouldKnow ที่ ธันวาคม 10, 2021, 08:08:14 AM

หัวข้อ: เติมเต็มครอบครัวด้วย เด็กหลอดแก้ว
เริ่มหัวข้อโดย: AllYouShouldKnow ที่ ธันวาคม 10, 2021, 08:08:14 AM
นิยามของคำว่าครอบครัวที่เราปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กว่าครอบครัวจะมีสมาชิก คือ พ่อ แม่ และลูก ซึ่งหลายครอบครัวก็มีสมาชิกเหล่านี้ครบแล้ว แต่บางครอบครัวที่ประสบปัญหาภาวะมีลูกยาก จึงทำให้ครอบครัวของเขายังไม่ครบองค์ประกอบ บางคู่อาจจะพอใจกับว่าชีวิตคู่สามารถมีความสุขได้ต่อให้ไม่มีลูก แต่สำหรับครอบครัวที่ต้องการมีลูกจริงๆ บทความเรื่องเด็กหลอดแก้วนี้ อาจจะช่วยคุณได้

หากจะทำเด็กหลอดแก้ว ควรรู้ก่อนว่า …

การทำเด็กหลอดแก้ว คืออะไร ?
การทำเด็กหลอดแก้ว คือ การปฏิสนธิภายนอกร่างกายโดยการนำเซลล์อสุจิที่เก็บจากพ่อ และเซลล์ไข่ที่เก็บจากแม่ มาทำการผสมในพื้นที่ปลอดเชื้อ ให้เกิดการปฏิสนธิเพื่อเกิดตัวอ่อนและจะนำกลับไปฝากครรภ์ของแม่เพื่อให้เติบโตต่อไป ซึ่งการทำเด็กหลอดแก้วต้องได้รับการยืนยันจากทั้งพ่อแม่ ไม่สามารถตัดสินใจทำเด็กหลอดแก้วได้ด้วยตัวคนเดียว

ปัจจุบันการทำเด็กหลอดแก้วที่เป็นที่รู้จักจะมีอยู่ 2 ชื่อ คือ การทำอิ๊กซี่ (ICSI) และการทำ IVF โดยเราจะไปทำความเข้าใจกับมันว่า ชื่อต่างกันแล้ววิธีการทำมันต่างกันมากน้อยแค่ไหน



ICSI vs IVF
ถ้าสรุปแบบสั้นๆ ICSI (Intracytoplasmic Sperm Injection) คือ IVF (In-vitro Fertilization) ที่อัพเกรดขึ้นมา เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างตัวอ่อน โดยจุดแตกต่างของทั้งคือ
IVF (https://beyondivf.com/en/ivf-service/) : การปฏิสนธิภายนอกที่ปล่อยตามธรรมชาติโดยจะนำเซลล์ไข่และเซลล์อสุจิมาผสมกันโดยปล่อยให้อสุจิทำการปฏิสนธิกับไข่เองตามธรรมชาติ หรือ ก็คือยังคงมีขั้นตอนที่ให้อสุจิว่ายเข้าไปในไข่เองอยู่
ICSI (https://beyondivf.com/en/icsi-service/) หรือ อิ๊กซี่ : การปฏิสนธิภายนอกที่เข้าไปลดกระบวนการบางอย่างออกโดยจะจะคัดเลือกเซลล์อสุจิที่แข็งแรงที่สุดและฉีดเข้าไปยังไข่โดยตรง ซึ่งจะตัดกระบวนการที่อสุจิจะว่ายเข้าไปในรังไข่ออก


จะรู้ได้อย่างไรว่าควรทำ ICSI หรือ IVF ดี ?
จากที่หัวข้อด้านบนได้กล่าวไว้ว่า ICSI คือ IVF ที่อัพเกรดเพิ่ม คำตอบค่อนข้างจะชัดแล้วว่า การทำเด็กหลอดแก้ว ICSI จะมีโอกาสที่ประสบความสำเร็จในการสร้างตัวอ่อนมากกว่า IVF แต่หลายคนคงสงสัยว่าการตัดกระบวนการที่ปล่อยอสุจิว่ายเข้ารังไข่ ดีอย่างไร คำตอบคือ มีโอกาสที่เซลล์อสุจิจะไม่สามารถว่ายไปถึงไข่ได้เลยสักตัว เนื่องจากพ่อมีปริมาณเซลล์อสุจิในน้ำเชื้อน้อยน้อย และ เซลล์ไม่แข็งแรง แต่หากว่ายไปถึงก็อาจมีอีกอุปสรรค คือ ไข่ของแม่มีเปลือกที่หนาเกินกว่า อสุจิจะเจาะเข้าได้ ซึ่งก็จะทำให้ไม่เกิดการปฏิสนธิได้ ดังนั้นการทำเด็กหลอดแก้ว ICSI ที่จะตัดกระบวนการยื้ดเยื้อนี้ออก แต่ฉีดอสุจิเข้าเซลล์ไข่โดยตรงเลย

ขั้นตอนการทำเด็กหลอดแก้ว ICSI
ขั้นตอนสำหรับการทำ ICSI มีประมาณ 5 ขั้นตอน ดังนี้

การฉีดยากระตุ้นไข่ : จะต้องเริ่มด้วยการตรวจอัลตราซาวด์และตรวจเลือดวัดระดับฮอร์โมนของร่างกาย เพื่อแพทย์จะได้วินิจฉัยเลือกยากระตุ้นที่เหมาะสม ซึ่งการฉีดยากระตุ้นไข่จะมีการฉีดทั้งหมด 3 ครั้ง คือ
ครั้งแรก ฉีดยา Recombinant FSH เพื่อกระตุ้นไข่หลายๆใบก่อน
ครั้งที่สอง ฉีดยา GnRH antagonist  เพื่อไม่ให้ไข่ตกก่อนเวลา
ครั้งที่สาม ฉีดยา hCG เพื่อให้ไข่สุกพร้อมๆกัน และจะให้ไข่ตกในอีก 36 ชั่วโมง
การเก็บไข่และคัดแยกเซลล์อสุจิ
การเก็บไข่ : จะเก็บผ่านทางช่องคลอด โดยใช้หัวตรวจอัลตราซาวด์ขนาดเล็ก เพื่อตรวจหาตำแหน่งของไข่ก่อน จากนั้นจะทำการดูดของเหลวออกมา และใช้กล้องจุลทรรศน์ตรวจหาไข่จากของเหลวที่ดูดขึ้นมา และจึงค่อยนำมาเพาะเลี้ยงในน้ำยาเลี้ยงไข่
การคัดแยกอสุจิ : การเก็บน้ำเชื้อจากผู้ชายมาใส่ในภาชนะปลอดเชื้อ จากนั้นนำส่งไปคัดแยกเซลล์อสุจิออกจากน้ำอสุจิ ในห้องปลอดเชื้อ
การทำ ICSI : ซึ่งได้ตัดขั้นตอนการปฏิสนธิทางธรรมชาติออกไป แพทย์จะเลือดคัดเลือกอสุจิที่แข็งแรงที่สุดและฉีดเข้าไปผสมกับไข่โดยตรง เพื่อให้เกิดตัวอ่อน
การเลี้ยงตัวอ่อน : จะทำการเพาะเลี้ยงในตู้พิเศษที่สามารถปรับควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสมสำหรับเลี้ยงตัวอ่อน เพราะอุณหภูมิที่พอเหมาะจะเร่งให้เกิดการแบ่งเซลล์ของตัวอ่อน
การย้ายตัวอ่อน : แพทย์จะตรวจอัลตราซาวด์เช็คโพรงมดลูกเพื่อหาตำแหน่งที่เหมาะสมก่อน แล้วจึงย้ายตัวอ่อนที่เพาะเลี้ยงอยู่ไปฝังไว้บนเยื่อบุโพรงมดลูก ให้เจริญเติบโตในครรภ์คุณแม่ต่อไป หลังจากนั้นก็มาตรวจตามที่แพทย์นัดเป็นระยะ เพื่อคอยดูอาการ


อาการผิดปกติแบบไหนที่ต้องทำเด็กหลอดแก้ว
อย่ามองว่าอาการผิดปกติเหล่านี้เป็นปมด้อย มันเป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นกับใครก็ได้ เช่น คุณแม่มีอาการ มีท่อนำไข่ตีบตันทั้งสองข้าง มีภาวะตกไข่ผิดปกติ หรือ มีภาวะเยื่อบุมดลูกผิดปกติ และมีพังผืดตรงอุ้งเชิงกราน และคุณแม่ถ้ามีอายุ 35 ปีขึ้นไปเเล้ว แต่ยังอยากมีลูก มันมีแนวโน้มที่ลูกในท้องจะมีความเสี่ยงที่มีความผิดปกติทางพันธุกรรม ดังนั้นการทำเด็กหลอดแก้วจะแก้ปัญหาที่จุดนั้นได้ และคุณพ่อถ้ามีปัญหาเหล่า
นี้ก็ควรเลือกทำเด็กหลอดแก้วเช่นกัน คือ ทำหมันไปแล้ว หรือ มีปัญหาเกี่ยวกับการแข็งตัวของอวัยวะเพศ


ก่อนเริ่มการทำเด็กหลอดแก้ว ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ?
การเตรียมตัวของแม่ก่อนทำเด็กหลอดแก้ว
นอนหลับให้เพียงพอ
ทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
งดเครื่องดื่มเเอลกอฮอล์และคาเฟอีน
งดสูบบุหรี่
ควบคุมอารมณ์ให้นิ่ง ไม่เครียด ไม่วิตก
ออกกำลังกายเบาๆ เพื่อคอยควบคุมน้ำหนัก
พยายามรักษาอุณหภูมิช่วงท้องให้อบอุ่นไม่เย็นจนเกินไปในช่วงเก็บไข่
การเตรียมตัวของพ่อก่อนทำเด็กหลอดแก้ว
นอนหลับพักผ่อนให้เพียง
เลือกทานอาหารให้เลือกอาหารที่มีสรรพคุณช่วยบำรุงน้ำเชื้อ
งดเครื่องดื่มเเอลกอฮอล์และคาเฟอีน
งดสูบบุหรี่
คอยดูแลรักษาความสะอาดของอวัยวะเพศ
ไม่แช่น้ำร้อน น้ำอุ่นในช่วงก่อนเก็บน้ำเชื้อ เพราะอุณหภูมิจะส่งผลให้ผลิตน้ำเชื้อได้ไม่ดี
และทั้งสองฝ่ายควรงดการมีเพศสัมพัธ์ในช่วงกระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว

การปฏิบัติตัวหลังจากทำเด็กหลอกแก้วสำหรับคุณแม่
หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็นที่จะกระเทือนไปยังท้อง เช่น การขึ้นลงบันได
นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
งดออกกำลังกายหนักๆ 2 - 3 วัน
รับประทานอาหารที่ย่อย ดูดซึมได้ง่าย
รับประทานยาตามที่แพทย์lสั่งให้ครบถ้วน

การทำเด็กหลอดแก้ว ใช้งบเท่าไหร่ ?
ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 150,000 - 300,000 บาท ซึ่งแต่ละคนที่ไปทำเด็กหลอดแก้วก็อาจจะมีค่าใช้จ่ายไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับว่าเคสนี้ทำได้ยากหรือง่าย
การทำเด็กหลอดแก้ว เลือกที่ไหนดี ?
พ่อแม่ย่อมต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้รู้ แม้แต่การเลือกสถานที่ที่จะเด็กหลอดแก้ว เลือกสถานพยาบาล ศูนย์รักษาที่ใบอนุญาตถูกต้อง แพทย์ที่ทำการรักษาต้องมีใบประกอบโรคศิลป์ การบริการเองก็สำคัญโดยดูจากรีวิวผู้ใช้บริการคนก่อนๆ ก็จะช่วยทำให้เห็นภาพชัดมากขึ้น
คำถามที่คนมักสงสัย
ถ้าทำเด็กหลอดแก้ว เลือกเพศให้ลูกได้ไหม ?
ไม่สามารถเลือกเพศของลูกได้
ถ้าทำเด็กหลอดแก้ว ทำเด็กแฝดได้ไหม ?
มีโอกาส 30 - 35% ที่จะได้เด็กแฝด
โอกาสความสำเร็จในการทำเด็กหลอดแก้ว ?
มีโอกาสเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 30 - 35% ที่จะตั้งท้องได้

สรุป
หลายครอบครัวที่อยากจะมีลูกแต่ไม่สามารถมีได้ และกำลังเป็นทุกข์กับเรื่องนี้ ขอให้ลองเลือกการทำเด็กหลอดแก้ว ICSI หรือ IVF เพื่อแก้ปัญหาดู แม้ว่าอาจจะต้องใช้งบประมาณมากแต่มันก็คงคุ้มค่า ถ้าสามารถทำให้คุณพ่อคุณแม่มีโอกาสได้อุ้มลูกของตัวเอง

ขอบคุณข้อมูลจาก https://beyondivf.com/icsi-ivf-beyondivf/ (https://beyondivf.com/icsi-ivf-beyondivf/)